“เงินเทอร์โบ” สินเชื่อน้องใหม 3 ปี รุกกว่า 550 สาขา เตรียมตัวเข้าตลาดกลางปี 65

824

“เงินเทอร์โบ” สินเชื่อน้องใหม 3 ปี รุกกว่า 550 สาขา  สาขาทั่วไทย ปักหมุดเข้าตลท. กลางปี 65 เสริมแกร่งธุรกิจขยายอีก2000 ขาขาทั่วไทย 

บ.เงินเทอร์โบเผยผลประกอบการ 3 ปี โตเกินเท่าตัวทุกปี ชูจุดเด่นเข้าใจความต้องการของลูกค้า สร้างกระแสการแนะนำปากต่อปาก เล็งเข้าตลาดหุ้นกลางปี 65 ขยายบริการครอบคลุมทั่วประเทศ

นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด

นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด ผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้แบรนด์ “เงินเทอร์โบ พร้อมเคียงข้างทุกโอกาส” เปิดเผยว่า บริษัทมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก ทั้งรายได้ รวมถึงฐานลูกค้า และจำนวนสาขามาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 63 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้โตขึ้น 3 เท่าจากปี 62 ส่วนปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้โตเกือบเท่าตัวจากปีก่อน ขณะที่ปี 65 น่าจะมีรายได้โตอีกเกือบเท่าตัว

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทถือว่ามีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากปัจจัยสำคัญในเรื่องของการให้บริการที่มีความรวดเร็ว จริงใจ ให้เกียรติ ตรงไปตรงมา สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมถึงการเปิดให้บริการ 7 วันต่อสัปดาห์ทุกสาขา สามารถรับเงินได้ทันที โดยมองว่าเป็นสิ่งที่บริษัทมีมากกว่าผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งมีผลทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของธุรกิจสูงที่สุดในอุตสาหกรรมนี้

72990

อย่างไรก็ดี จากรูปแบบการให้บริการดังกล่าวได้กลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญของบริษัท เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่เพิ่มมากขึ้นมาจากการแนะนำกันแบบปากต่อปากของลูกค้าที่เคยใช้บริการสินเชื่อของบริษัท โดยบริษัทจะปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรให้กับพนักงาน ซึ่งจะมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นลำดับแรก อีกทั้งยังมีความเข้าใจสภาพคล่องทางการเงินของลูกค้าที่อาจจะไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อลูกค้ามีปัญหาก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ทำให้เกิดความผูกพันระหว่างบริษัทกับลูกค้า โดยบริษัทจะมีทีมสำรวจที่คอยสอบถามความพึงพอใจอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เฉพาะวันแรกที่ได้รับการอนุมัติเงินกู้ ซึ่งบริษัทจะได้คะแนนเกือบเต็มมาโดยตลอด ใครที่ใช้บริการเงินเทอร์โบแล้วจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปใช้ที่อื่น

“บริษัทจะให้เกียรติลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยมีความเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริงในเรื่องของรายได้ที่อาจจะไม่แน่นอน ดังนั้น บริษัทจึงมีความยืดหยุ่นให้กับลูกค้าเสมอ มุ่งเน้นการเข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกค้าในยามที่เกิดปัญหา ซึ่งบริษัทจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายการยึดทรัพย์สินของลูกค้ามาขายทำกำไร ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่รักเรา โดยมีจำนวนลูกค้าเพิ่มมากขึ้นตลอด เรียกว่าเปิดสาขามาจำนวนลูกค้าไม่เคยตก โดยที่ไม่เคยโฆษณาอะไรเลย” นายสุธัชกล่าว

นายสุธัช กล่าวต่อไปว่า บริษัทมีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ช่วงกลางปี 65 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินมาใช้ในการขยายธุรกิจ ซึ่งบริษัทมีแผนจะขยายสาขาให้ได้ 3,000 สาขาในปี 68 เพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่บริษัทมีสาขาเปิดให้บริการอยู่กว่า 550 สาขา โดยที่สิ้นปีนี้จะเปิดให้บริการเพิ่มเป็น 650 สาขา รวมถึงการนำเงินไปลงทุนขยายทีมเทคโนโลยี ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำธุรกิจในอนาคต นอกจากนี้ ก็จะนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้เพื่อการปล่อยสินเชื่อ หรือเป็นเงินหมุนเวียนของธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาต้องขอบคุณทางธนาคารต่างๆทุกแห่ง โดยเฉพาะธนาคารกสิกรไทยที่สนับสนุนมาโดยตลอด ธนาคารไม่ได้มองเป็นคู่แข่งแต่เข้าใจและมองเราเป็นห่วงโซ่เล็กๆที่ทำให้คนในสังคมเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น จะได้ช่วยกันลดหนี้นอกระบบ ซึ่งขั้นตอนในปัจจุบันบริษัทเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ หรือไฟลิ่ง (Filing) ให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีหลักทรัพย์กสิกรไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA)

 

Leave A Reply

Your email address will not be published.