พี่เอื้อยอสังหาฯ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” โชว์รายได้ไตรมาสแรก 5,000 ล้าน กำไรสุทธิ 1,343 ล้านลดลงตามคาด

1,011

พี่เอื้อย ธุรกิจอสังหาฯไทย “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 63 ฝ่าวิกฤติ covid-19 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,343.99 ล้านบาท ลดลงเทียบงวดเดียวกันปี62 คิดเป็น 26.39% ขณะที่มีรายได้จากการขายเท่ากับ 5,048.29 ล้านบาท ลดลกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 5,698.25 ล้านบาท ลดลง 649.96 ล้านบาท หรือ ลดลงร้อยละ 11.41 มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเท่ากับ ร้อยละ 29.51 ลดลงร้อยละ 2.80 เหตุจากต้นทุนที่สูงขึ้นโดยไม่มีการปรับราคา เพราะสถานการณ์โควิดระบาดส่งผลกำลังซื้อลด

 

นายวิทย์ ตันติวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2563 สิ้นสุด 31 มีนาคม 2563 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว โดยชี้แจงว่า งบกำไรขาดทุนงวดไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 1,343.99 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 1,825.80 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลงจำนวน 481.81ล้านบาท คิดเป็นลดลง 26.39%


ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเท่ากับ 5,048.29 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายเท่ากับ 5,698.25 ล้านบาท ถือว่าลดลง 649.96 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 11.41 ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเท่ากับ ร้อยละ 29.51 เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเท่ากับ ร้อยละ 32.31 โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลงร้อยละ 2.80 เป็นผลมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ราคาขายไม่ได้มีการปรับขึ้น เนื่องมาจากมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 กระทบต่อ กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ส่งผลทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯลดลงจำนวน 351.81ล้านบาท
อย่างไรก็ดีด้านสัดส่วนรายได้จากการขายบ้านแต่ละประเภทใชนช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เทียบกับไตรมาสแรกปี 2562 โดยมียอดขายบ้านเดี่ยว 75% เทียบปีที่ผ่านมาขายได้ 80% ยอดขายทาวน์เฮ้าส์ทำได้ 16% ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 13% ขณะที่คอนโดมิเนียมขายได้ 9% มากกว่าไตมาสแรกปี 62 ที่ทำได้ 7%


ส่วนรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนสามารถทำรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ 986.88 ล้านบาท มีต้นทุนที่ 703.13ล้ านบาท มีกำไรขั้นต้น 265.75 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น 26.93% เทียบไตรมาสแรกปี 2562 มีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการอยู่ที่ 1,250.49 ล้านบาท ต้นทุน870.47 ล้านบาท กำไรขั้นต้น 380.02 ล้านบาท และ อัตรากำไรขั้นต้น 30.39%
ทางด้าน รายได้ค่าเช่าและค่าบริการในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 986.88 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนมีจำนวนเท่ากับ 1,250.49 ล้านบาท ลดลงจ านวน 263.61 ล้านบาท คิดเป็นลดลงร้อยละ 21.08 ซึ่งเกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ทำให้รายได้ของกิจการโรงแรมลดลง
ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.46 เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ไม่ได้ลดลงตามยอดรายได้ค่าเช่าที่ลดลง


ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 121.56 ล้านบาท จากผลประกอบการที่ลดลงจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้บริษัทร่วมมีรายได้ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน


อย่างไรก็ดีด้านค่าใช้จ่ายทางการเงินในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จำนวน 181.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 5.38 ล้านบาท บริษัทยังมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (ตราสารอนุพันธ์) ในไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 188.84 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่ลดลง และการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีตราสารอนุพันธ์ ส่วนเรื่องภาษีเงินได้นิติบุคคลในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จำนวน 91.28 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 276.78 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 185.50 ล้านบาท

Leave A Reply

Your email address will not be published.