จับตา…Covid-19 กระทบคอนโดมิเนียมภูเก็ตชะลอ

1,130

จับตา…Covid-19 กระทบคอนโดมิเนียมภูเก็ตชะลอ ระบุปี 2562 ต่างชาติจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ซื้อมากถึง 90% ของคอนโดฯที่เปิดขาย ไนท์แฟรงค์ชี้ จำนวนหน่วยขายสะสมของคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมียอดขายแล้วทั้งสิ้น 19,199 หน่วย จากจำนวนอุปทานรวม 25,932 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 74 ซึ่งมีจำนวนหน่วยเหลือขายประมาณ 6,733

นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการบริหาร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด

นายณัฏฐา คหาปนะ กรรมการบริหาร บริษัท ไนท์แฟรงค์ ภูเก็ต จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเป็นธุรกิจที่เติบโตเป็นคู่ขนานไปกับการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวในภูเก็ต ทั้งนี้เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคือกลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดภูเก็ต โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในภูเก็ต เปิดขายในลักษณะการันตีผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า

อุปทาน

จากผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ณ ปลายปี พ.ศ. 2562 อุปทานคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีจำนวนทั้งสิ้น 25,932 หน่วย โดยในปีพ.ศ. 2562 มีจำนวนคอนโดมิเนียมในภูเก็ตที่เปิดขายใหม่สูงถึง 5,545 หน่วย จากโครงการคอนโดมิเนียมทั้งสิ้น 21 โครงการ จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา จำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมในภูเก็ตที่เปิดขายใหม่มีเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2559 คอนโดมิเนียมในภูเก็ตเปิดขายใหม่เฉลี่ยต่อปี อยู่ที่ประมาณ 1,800 – 2,000 หน่วยต่อปี มาในระยะ 3 ปี หลัง จำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ของคอนโดมิเนียมในภูเก็ตเพิ่มขึ้นมาเป็น 4,000 ห้อง และ ปี พ.ศ. 2562 คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในภูเก็ตมีจำนวนสูงที่สุด คือ 5,545 ห้อง

72990


คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในปี พ.ศ. 2562 โดยส่วนใหญ่มีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณหาดสุรินทร์ถึงร้อยละ 20 รองลงมาได้แก่ บริเวณหาดลายัน และ หาดราไวย์ คิดเป็นสัดส่วนในอัตราร้อยละ 17 และ 14 ตามลำดับ บริเวณหาดสุรินทร์มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สูงสุดอันเนื่องมาจาก มีโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่เปิดขาย ในส่วนของบริเวณกมลา ได้มีโครงการชื่อ โอเที่ยม (Otium) ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่พักสำหรับผู้เกษียณอายุ

 

อุปสงค์
ในปี พ.ศ. 2562 จำนวนหน่วยขายสะสมของคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมียอดขายแล้วทั้งสิ้น 19,199 หน่วย จากจำนวนอุปทานรวม 25,932 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 74 ซึ่งมีจำนวนหน่วยเหลือขายประมาณ 6,733 หน่วย จำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมที่ขายได้ใหม่ในปี พ.ศ. 2562 มีจำนวนหน่วยขายสูงถึง 4,177 หน่วย ซึ่งจำนวนหน่วยขายพอๆกับปี พ.ศ. 2561 ซึ่งมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ในปี พ.ศ. 2561 อยู่ที่ 4,022 หน่วย จะเห็นได้ว่าคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมียอดขายที่ดีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 – 2562 โดยในปี พ.ศ. 2560 มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ที่ 3,114 หน่วย เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนหน่วยขายระหว่างปี พ.ศ. 2555 – 2559 ที่มีเพียง 1,000 – 1,800 หน่วยต่อปี

กลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตในอดีตเป็นชาวต่างชาติ (เกือบ 100%) โดยเป็นนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ที่มีความชื่นชอบในการเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต ในขณะที่ปัจจุบันกลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวต่างชาติ (ร้อยละ 90%) แต่ยังมีกลุ่มคนไทยเพิ่มขึ้นด้วย (ร้อยละ 10%)

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯด้วย กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีความหลากหลายมาก โดยกลุ่มใหญ่ๆที่ซื้อคอนโดมิเนียมในภูเก็ตประกอบด้วย ชาวจีน ชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และชาวรัสเซีย

ปัจจัยหลักที่ทำให้คอนโดมิเนียมในภูเก็ตค่อนข้างขายดีเนื่องจากหลายโครงการที่เปิดขายใหม่ มักจะเสนอผลตอบแทนการลงทุนกับผู้ซื้อ เป็นระยะเวลา 3-5 ปี (การันตีผลตอบแทน) และยังสามารถเข้าพักได้ ในระยะเวลา 30-45 วัน ต่อ ปี จะเห็นได้ว่าโครงการที่เปิดขายใหม่ในปี พ.ศ. 2562 ถึง 86% หรือ 18 โครงการ จาก 21 โครงการ ที่การันตีผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อ

ราคาขาย
ราคาขายคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 193,590 บาท ต่อ ตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี พ.ศ. 2554 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 120,540 บาท ต่อ ตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จากปี พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 8 ปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ในอัตราร้อยละ 7.6 ส่วนคอนโดมิเนียมที่เห็นวิวทะเลบางส่วนมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 107,000 บาท ต่อ ตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี พ.ศ. 2554 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 84,500 บาท ต่อ ตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จากปี พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 8 ปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ในอัตราร้อยละ 3.3 และคอนโดมิเนียมที่ไม่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 79,300 บาท ต่อ ตารางเมตร ปรับตัวขึ้นจากปี พ.ศ. 2554 ซึ่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 62,100 บาท ต่อ ตารางเมตร ค่าเฉลี่ยการปรับตัวขึ้นของคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้จากปี พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2562 มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวในระยะเวลา 8 ปี (Compound Annual Growth Rate: CAGR) อยู่ในอัตราร้อยละ 3.5

แนวโน้มคอนโดมิเนียมในภูเก็ต

ตลาดคอนโดมิเนียมในภูเก็ตปี พ.ศ. 2563 คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากสถานการณ์ไวรัส โคโรน่า สายพันธ์ใหม่ หรือ โควิด–19 เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมเป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 และชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมที่เป็นกลุ่มหลักคือ ชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักจาก ไวรัสโคโรน่า และในช่วงที่เริ่มมีการแพร่ระบาด พบว่านักท่องเที่ยวชาวจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ได้ลดจำนวนลงเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังลดการเดินทางเข้ามาในประเทศในแถบเอเซีย รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย และคาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ไวรัสโควิดน่าจะลากยาวไปอีก 6 เดือนแนวโน้มในปี 2563 จากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) ทำให้ส่งผลกระทบในแง่ลบ อุปสงค์ อุปทาน และราคาขายของคอนโดมิเนียมน่าจะมีแนวโน้มลดลง

Leave A Reply

Your email address will not be published.