ชี้เก็งกำไร/ลงทุนคอนโดฯปล่อยเช่ารายวันไร้อนาคต
ชี้เก็งกำไร/ลงทุนคอนโดฯปล่อยเช่ารายวันไร้อนาคต
ศาลพิพากษาเจ้าของห้อง/นิติบุคลฯผิดกฎหมาย
เตือนนักลงทุนหน้าใหม่ ซื้อคอนโดฯหวังรายได้จากการปล่อยเช่ารายวัน..ผิดกฎหมาย กรณีศึกษาล่าสุดศาลจ.หัวหิน พิพากษา เจ้าของคอนโดฯและนิติบุคคลฯมีความผิด ตามพ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 ซื้อคอนโดฯหวังปล่อยเช่าต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจ ส่วนผู้ประกอบการชี้กระทบยอดขายคอนโดฯย่านแหล่งท่องเที่ยวแน่ เหตุลูกค้าส่วนใหญ่ลงทุนเพื่อเป็นการลงทุน ด้านทัวร์จีนไม่สนเจรจาเจ้าของห้อง ใช้บริษัทตัวแทนทัวร์เช่าระยะยาวรายปี ปล่อยลูกทัวร์พักอาศัย
ตลาดคอนโดมิเนียมในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว และริมทะเลที่ผ่านมาได้รับความนิยมมาก จากนักลงทุนที่หวังผลจากการซื้อมาปล่อยเช่า มีผู้ประกอบการต่างแห่ลงทุนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษาให้เจ้าของห้องชุดในโครงการแห่งหนึ่งที่นำห้องชุดพักอาศัยมาปล่อยเช่ารายวันและรายสัปดาห์มีความผิดตามพ.ร.บ.โรงแรม ซึ่งเรื่องดังกล่าว นายเด็กซ์เตอร์ นอร์วิลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการบริหารอาคาร เจแอลแอล ที่ปรึกษาธุรกิจอสังหาริมชั้นนำ ระบุว่า
“กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้มีผลบังคับใช้มานานแล้ว แต่การลงโทษผู้กระทำผิดไม่ได้รับการรายงานต่อสาธารณะมากนัก จนกระทั่งมีกรณีของคำสั่งศาลตัดสินเกี่ยวกับการปล่อยเช่าคอนโดชั่วคราวที่หัวหินดังกล่าว ซึ่งทำให้เจ้าของและนิติบุคคลอาคารชุดคอนโดมิเนียม มีความตื่นตัวมากขึ้นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”
การนำคอนโดมิเนียมของตนออกมาปล่อยเช่าชั่วคราว ซึ่งเป็นการกระทำความผิดในทางกฎหมาย เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการและผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุดของคอนโดมิเนียม ต้องประกาศและประชาสัมพันธ์แจ้งให้เจ้าของรวมในอาคารได้รับทราบถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ตามพ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 คำว่า “โรงแรม” หมายถึงสถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน โดยผู้ที่จะสามารถประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ผู้ที่นำคอนโดพักอาศัยมาปล่อยเช่าชั่วคราวเช่นเดียวกับโรงแรม โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจึงถือเป็นผู้ที่กระทำความผิดทางกฎหมาย
ส่วนกรณีที่อาคารชุดพักอาศัยที่จะปล่อยเช่าชั่วคราวได้ จะต้องมีการขอใบอนุญาตประกอบการโรงแรม ขณะที่อาคารชุดพักอาศัยส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกออกแบบก่อสร้างมาให้มีคุณลักษณะตรงตามหลักเกณฑ์ข้อกำหนดการใช้อาคารเป็นโรงแรมตั้งแต่ต้น รวมถึงความเห็นชอบของเจ้าของร่วมในคอนโดมิเนียม บางส่วนหรือทั้งหมดที่ไม่ยินดีต้อนรับผู้เช่าชั่วคราวให้เข้ามาร่วมใช้พื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง และยังมีข้อกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.คนเข้าเมืองที่กำหนดให้เจ้าของที่พักต้องแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองในท้องที่ภายใน 24 ชั่วโมง กรณีมีบุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัยในเคหสถานอีกด้วย”
ด้านผู้ประการรายใหญ่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า “มีผลกระทบตลาดคอนโดมิเนียมในย่านสานที่ท่องเที่ยวสำคัญแน่ ลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อเพื่อเป็นการลงทุนปล่อยเช่า ที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัยเองไม่มาก ในขณะที่ประเด็นเรื่องผิดกฎหมายแม้จะมีปัญหานี้มานานแล้วหลายปี แต่กลุ่มลูกค้าที่สนใจลงทุนคอนโดมิเนียมในย่านนี้มีทั้งรายเก่า และรายใหม่ที่ไม่ทราบ หรือไม่ได้ศึกษากฎหมายฉบับนี้ และก็ไม่มีข่าวเรื่องนี้มากนัก ซึ่งข่าวนี้ออกไปรับทราบในวงกว้าง ลูกค้าต้องตระหนักมากขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุน รวมถึงคอนโดมิเนียมตากอากาศที่ยังเหลือขายในสต็อกของผู้ประกอบการ ที่นำมาปล่อยเช่ารายวัน ก็จะส่งผลกระทบแน่นอน
ขณะที่เจ้าของคอนโดมิเนียมิมชายทะเลพัทยา จ.ชลบุรี กล่าวกับ ทีมข่าว “พร็อพเพอร์ตี้ชานเนล” และ “คอนโดไกด์” ว่า มีตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวจากประเทศจีน มาติดต่อขอเช่า คอนโดมิเนียมที่ซื้อไว้โดยใช้บริษัทมาทำสัญญาเช่าระยะยาว โดยมีวัตถุประสงค์นำไปปล่อยให้กับลูกทัวร์ที่เป็นชาวจีน พร้อมอ้างความรับผิดชอบหากมีการแจ้งเอาผิด ซึ่งตนเองได้ปฎิเสธไปเพราะทราบดีว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ในขณะเดียวเจ้าของร่วมอาคารชุดที่ทราบคงไม่ยินดีแน่ โดยเฉพาะบูกทัวร์ชาวจีน น่าจะส่งผลต่อความเรียบร้อย และความสะอาดของโครงการ อาจนำไปสู้การแจ้งเจ้าหน้าที่ ดำเนินคดี ซึ่งเรื่องนี้ผู้ลงทุนซื้อคอนโดมาปล่อยเช่าต้องเข้าใจ และอาจจะมีปัญหาหากไม่ศึกษากฎหมายให้ดี