มั่นคงฯ ทุ่ม 5,000 ล้าน ผุดโปรเจคใหม่ 7 โครงการ
มั่นคงเคหะการ มั่นใจเศรษฐกิจ ทุ่มทุน 5,000 ล้านบาท ลุยธุรกิจเพื่อขาย 4,000 ล้านบาท เช่าและการบริการ 1,000 ล้านบาท พร้อมส่ง 7 โครงการใหม่ บนทำเลศักยภาพลงตลาด ตั้งเป้ารายได้จากการขายโครงการ 3,500 ล้านบาท
นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)คาดว่า เศรษฐกิจเศรษฐกิจปีนี้จะขายตัว 3.6-4.6% ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตประมาณ 6-8% โดยซับพลายที่อยู่อาศัยในตลาดกทม.-ปริมณฑลปี 2561 จะมีเพิ่มขึ้น โดยตัวเลขจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าจะมีประมาณ 154,200 หน่วย เป็นโครงการแนวราบประมาณ 74,300 หน่วย คิดเป็น 48.2% ขณะที่อาคารชุดมีประมาณ 79,900 หน่วย คิดเป็น 51.8% โดยหน่วยที่มีมากสุดคือ อาคารชุด 51.8% รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 29.1% และบ้านเดี่ยว 13.6% ที่เหลือเป็นบ้านแฝดและอาคารพาณิชย์”
จากข้อมูลดังกล่าว บริษัทฯจึงทุ่มงบพัฒนาธุรกิจทั้งส่วนการขายและการเช่าอย่างเต็มรูปแบบ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงได้ทุ่มงบลงทุน 5,000 ล้านบาท พัฒนาทั้งธุรกิจเพื่อขาย เพื่อเช่าและการบริการ โดยมุ่งไปยังกลุ่มตลาดระดับกลางและระดับบน เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อ ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนด้วย พร้อมดึงระบบเทคโนโลยีและดิจิตอลเข้ามาเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการและการขาย รวมถึงวางแผนขยายไลน์ธุรกิจไปยังกลุ่มใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทฯ ซึ่งจะเป็นทั้งบริหารจัดการด้วยตนเอง และการจับมือพันธมิตรทางธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศร่วมพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มความต้องการ
ทั้งนี้ ในปี 2561 บมจ.มั่นคงเคหะการ มีแผนพัฒนาโครงการใหม่รวม 7 โครงการ ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ และโครงการทาวน์โฮม 2 โครงการ มูลค่ารวมทั้ง 7 โครงการประมาณ 4,720 ล้านบาท โดยเน้นพัฒนาโครงการในทำเลใกล้เคียงกับโครงการเดิมในปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพตลอดจนยังมีกำลังซื้ออยู่มาก อาทิ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก กรุงเทพฯ ตอนเหนือ และกรุงเทพฯ-ปทุมธานี ซึ่งทำเลกรุงเทพ-ปทุมธานีถือว่าเป็นทำเลที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีที่สุดทำเลหนึ่ง ประกอบกับทางบริษัทฯได้มีการพัฒนาและปรับโฉมคลับเฮ้าส์สนามกอล์ฟใหม่ในปีที่ผ่าน โดยพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปัจจุบันมีการพัฒนาพื้นที่ปล่อยเช่ารวม 115,000 ตารางเมตร และจะพัฒนาต่อเนื่องในปีนี้เพิ่มเติมอีกประมาณ 38,000 ตารางเมตร ส่วนบริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการอาคารและที่พักอาศัยนั้น ในปี 2561 วางแผนขยายบริการเพิ่มอีก 8 โครงการ”