ยูนิเวนเจอร์ เปิด 31 โครงการ ดันธุรกิจโรงแรม

851

ยูนิเวนเจอร์ กางแผนปี 62 เดินหน้าเสริมแกร่งองค์กรสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เผยจ่อผุด 31 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 38,200 ล้านบาท คาดสิ้นปีมียอดขายรวมแตะ 38,000 ล้านบาท และมีรายได้ 25,800 ล้านบาท โต 15-25% พร้อมโชว์ผลงานปี 61 โกยรายได้รวม 20,994 ล้านบาท

 

นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV)

นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ยูนิเวนเจอร์ (UV) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 ว่า บริษัทยังคงมุ่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ในการดำเนินหลักใน 3 ปี (2561-2563) ผ่าน 5 แผนงานหลัก ได้แก่ การสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการต่อยอดสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และการขับเคลื่อนองค์กรรองรับโอกาสใหม่ๆที่สามารถเห็นเป็นรูปธรรมได้

อย่างไรก็ตามในปี 2562 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวมจำนวน 31 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 38,200 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ จำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 28,600 ล้านบาท และ แนวสูง จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 9,600 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้รวมอยู่ที่ 25,800 ล้านบาท เติบโต 15-25% โดยรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 83% หรือ 21,400 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากโครงการแนวราบ 70% และ โครงการแนวสูง 13% รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและโรงแรม 7% ธุรกิจอื่นๆ 10% สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายรวมอยู่ที่ 38,000 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งงบประมาณในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่รวมกว่า 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 12,000 ล้านบาท และ แนวสูง 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีการพัฒนาโครงการใหม่รวม 31 โครงการ โดยจะเป็นการพัฒนาของบมจ.แกรนด์ยูนิตี้ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบมจ.ยูนิเวนเจอร์ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9,600 ล้านบาท และเป็นในส่วนของบมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 28,600 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดเพิ่มเติม ได้แก่ นครปฐม นนทบุรี อยุธยา ชลบุรี ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก

72990

นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการเข้าร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต โดยมีเป้าหมายยื่นขอการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตจากคณะกรรมการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต ให้แล้วเสร็จภายในกรอบเวลาที่กำหนดต่อไป อย่างไรก็ตามจากแผนการดำเนินในภาพรวม เชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สำหรับผลการดำเนินงานในปีประมาณ 2561 บริษัทสามารถทำรายได้รวม 20,994 ล้านบาท เติบโต 16% โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 16,812 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและโรงแรม 1,688 ล้านบาท ธุรกิจอื่นๆ 2,373 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 121 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทอยู่ที่ 1,0006 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้รวม 10,200 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 7,000 ล้านบาท และโครงการแนวสูง 3,200 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ จำนวน 9,700 ล้านบาท

Leave A Reply

Your email address will not be published.