เอพี ไทยแลนด์ เปิดตัวคอนโดฯ ไลฟ์ อโศก ไฮป์

887

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดตัว ‘ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (LIFE Asoke Hype)’ คอนโดมิเนียมใหม่ใจกลางย่านธุรกิจ CBD ใหม่ อโศก-พระราม 9 พร้อมกับระดับราคาที่จับต้องได้ในราคา 135,000 บาทต่อตารางเมตรราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท และมองไปยังกลุ่มนักลงทุน ที่จะทำให้มีโอกาสการลงทุนระยะยาวในอนาคต ปล่อยเช่าระยะยาว ด้วยผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าประมาณ 5 – 6%

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์)

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่าความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดมิเนียมเครือเอพีที่ผ่านมา คือ การเลือกเฟ้นทำเลที่ดีเยี่ยม ใจกลางเมืองช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ผนวกกับความใส่ใจในการออกแบบเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากพื้นที่ใช้สอย การบริหารแพ็คเกจราคาขายที่เหมาะสม ตลอดจนความมั่นใจในคุณภาพการก่อสร้าง การบำรุงรักษา และบริการหลังการขายของเอพี แต่ในปัจจุบันเกมธุรกิจเปลี่ยนไป กล่าวคือ ผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างชูทำเลสะดวกใกล้แนวรถไฟฟ้าเป็นจุดขาย เราในฐานะเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้ายังคงคุณภาพด้านต่างๆ ที่กล่าวมาไว้คงเดิม แต่เพิ่มศักยภาพของคอนโดฯ เราให้สามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า รวมถึงความต้องการที่ยังไม่ถูกตอบสนอง (unmet needs) ด้วยการนำกระบวนการ Design Thinking เข้ามาเสริม โดยสำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียม ไลฟ์ อโศก ไฮป์ นับเป็นโจทย์ที่ทีมต้องทำการบ้านหนักมาก เพื่อให้มั่นใจว่า ไลฟ์ อโศก ไฮป์ จะเป็นมิติใหม่ของการยกระดับการใช้ชีวิตในคอนโดย่านใจกลางเมืองอย่างแท้จริง จะทำอย่างไรให้ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ สามารถนำเสนอทั้งพื้นที่ส่วนกลางและพื้นภายในยูนิตพักอาศัยได้แตกต่างและตรงกับที่ลูกค้ามองหา”

“เอพี เราเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะย่านเชื่อมต่ออโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ที่เรามีโครงการพัฒนาแล้วเสร็จในย่านนี้ทั้งสิ้นจำนวน 5 โครงการ รวมกว่า 3,600 ยูนิต ทำให้เรามีประสบการณ์ ความชำนาญ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงทุกอินไซต์ที่มีความแตกต่างและเฉพาะเจาะจงของลูกค้าในย่านนี้ ประกอบกับการไม่หยุดนิ่งที่จะยกระดับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อส่งมอบคุณภาพการอยู่อาศัย อย่างยั่งยืนโดยนำกระบวนการ Design Thinking เข้ามาเพื่อค้าหาความต้องการแฝงของลูกค้าทั้ง ความต้องการในวันนี้และอนาคตที่จะเกิดขึ้น โดยพบว่าลูกค้าย่านนี้เป็นกลุ่มคน Gen-X ถึง Gen-Y อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 28-37 ปี เป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ความหลากหลายในการใช้ชีวิต จึงเป็นที่มาของการออกแบบโครงการ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ ภายใต้แนวคิด The Supremacy of Both Worlds การเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาผสมผสาน เพื่อให้เกิดมิติใหม่ของการพักอาศัยใจกลางเมืองที่ไม่เหมือนใคร

ภายใต้ 4 จุดขายต่าง

72990

(1) Privacy in Connected Space ยกระดับฟังก์ชั่นการใช้งานบนพื้นที่ส่วนรวมที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง อาทิ Running Loop, Co Working Business Lounge, สระว่ายน้ำ หรือจัดโซนสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วยเทคนิคการไล่ระดับเพื่อให้รองรับการใช้งานที่ตอบความเป็นส่วนตัว  ที่แท้จริง

(2) SUPREME LUXURY IN ECLECTIC DESIGN นิยามใหม่ของการใช้ชีวิตแบบลักชัวรี่ ด้วยเอกลักษณ์ของการออกแบบ ซึ่งเป็นที่มาของสีสันที่จัดจ้านแบบลงตัวบนตัวตึกที่บ่งบอกถึงสไตล์อันโดดเด่นเป็นหนึ่งเดียวของผู้อยู่อาศัย

(3) SUPREME SPACE IN TOMORROW’S FUNCTIONALITY การให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ที่ภายในยูนิตพักอาศัย ขยับขยายได้จริง ยืดหยุ่นได้หลากหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้อาศัย ส่งเสริมการใช้ชีวิตวันนี้และการปรับเปลี่ยนในอนาคต และ

(4) SUPREME LOCATION AT SUPREME PRICE ชูจุดต่างด้วยศักยภาพของทำเลแห่งอนาคตในราคาที่จับต้องได้” นายวิทการกล่าว

ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (LIFE Asoke Hype) คอนโดมิเนียมโครงการร่วมทุนระหว่าง เอพี และ มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป – MECG) มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาท สูง 40 ชั้น จำนวน 1,253 ยูนิต สิ่งที่จะทำให้ ไลฟ์ อโศก ไฮป์ แตกต่างจากโครงการอื่นในย่าน คือ การเสนอมิติใหม่แห่งการพักอาศัยใจกลางเมืองในแพ็คเกจราคาขายที่สามารถจับต้องได้เฉลี่ยเพียง 135,000 บาทต่อตารางเมตร บนทำเลศักยภาพใจกลางย่านธุรกิจแห่งใหม่ อย่างย่านเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9” 

นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด ผู้นำที่ปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพ

นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด ผู้นำที่ปรึกษาด้านการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใจกลางเมืองแบบครบวงจรกล่าวถึงภาพรวมการลงทุนคอนโดมิเนียมในย่านเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ว่า “พื้นที่ย่านเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ถือว่าเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นทำเลแห่งโอกาส ทั้งอัตราการเข้ามาของลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะชาวต่างชาติจากแถบเอเชียทั้ง ไต้หวัน สิงค์โปร์ ฮ่องกง จีน และญี่ปุ่น จึงทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาฯ สนใจลงทุนในย่านนี้จำนวนมากและทำให้การแข่งขันสูง จากการสำรวจโดยฝ่ายวิจัยบางกอกซิตี้สมาร์ทพบว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าในย่านนี้ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือลงทุนอสังหาฯ ในย่านนี้นอกจากปัจจัยทำเลนั่นคือ การนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง ปัจจัยด้านราคาที่จับต้องได้  และที่สำคัญคือ คุณภาพที่ได้มาตรฐานของตัวโครงการที่อยู่อาศัยฉะนั้นโจทย์สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้ามาทำตลาดในพื้นที่โซนนี้จะต้องสามารถครองใจลูกค้าในเรื่องเหล่านี้ให้ได้”

“สำหรับที่ตั้งของคอนโดมิเนียม ไลฟ์ อโศก ไฮป์ เป็นทำเลที่มีศักยภาพทั้งความพร้อมในวันนี้ และอนาคตอันใกล้ จากแผนพัฒนาพื้นที่โครงการออฟฟิสเกรดเอที่จะเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ โดยมีการคาดการณ์จำนวนพนักงานในบริษัทสัญชาติไทยและกลุ่มทุนต่างชาติ ที่กำลังจะย้ายเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบในย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่นี้กว่า 78,000 คนในปี 2563 ประกอบกับแผนการเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน อย่างสายสีน้ำเงินที่มีจำนวนผู้โดยสายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 270,000 คน (เพิ่มขึ้นกว่า 5.23% ต่อปี) กับโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่ CBD เดิมอย่างย่านสีลม สาทร และสุขุมวิทได้โดยตรง อีกทั้งแวดล้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงเป็นที่ต้องการสำหรับ   ผู้ซื้อที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย” นายขยลกล่าว

“ในส่วนของภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมทำเลเชื่อมต่อ อโศก-เพชรบุรี-พระราม 9 ย้อนหลัง 5 ปีพบโครงการใหม่ที่เปิดตัวในย่านทั้งสิ้น 19 โครงการ แบ่งเป็นโครงการที่เปิดตัวในแนวถนนเส้นหลักตั้งแต่แยกอโศก-อโศกเพชรบุรี จำนวน 9 โครงการ ในราคาขายเฉลี่ย 240,000 บาท/ตร.ม. มียอดขายรวม 82% และเป็นโครงการที่เปิดตัวตั้งแต่แยกอโศกเพชรบุรี-สถานีศูนย์วัฒนธรรม จำนวน 10 โครงการ ในราคาขายเฉลี่ย 175,000 บาท/ตร.ม. และมียอดขายรวมแล้วถึง 83% ซึ่งนับเป็นอัตราการตอบรับที่ดี ขณะที่คอนโดมิเนียมในกลุ่มสินค้ารีเซลก็พบการปรับตัวขึ้นมาปีละประมาณ 9% เช่นกัน นอกจากนี้  ผู้ซื้อที่ต้องการลงทุนในการปล่อยเช่าและขายต่อให้ความสนใจในตลาดโซนนี้ไม่แพ้กัน เพราะผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าระยะยาว (Rental Yield) ของคอนโดฯ ในย่านนี้ พบอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 5 – 6% ซึ่งนับว่าราคาคอนโดมิเนียม ในทำเลนี้ ยังเหมาะสมในการซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนระยะยาว” นายขยลกล่าวเพิ่มเติม

ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (LIFE Asoke Hype) คอนโดฯ ใจกลางย่านธุรกิจแห่งอนาคต โดดเด่นด้วยดีไซน์   ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มูลค่าโครงการ 5,700 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยสูง 40 ชั้น จำนวนห้องชุดทั้งสิ้น 1,253 ยูนิต และ 4 ร้านค้า

ประกอบด้วยห้องชุดแบบ

1) สตูดิโอ ขนาด 25.50 ตารางเมตร

2) ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 30.50 – 32.00 ตารางเมตร

3) ห้องชุด 1 ห้องนอน (แบบพิเศษ) ขนาด 35.00-40.00 ตารางเมตร

4) ห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาด 48.50 – 64.00 ตารางเมตร

พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในชั้น 1 ชั้น 7 ชั้น 40 และชั้น Rooftop โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 5-0-10 ไร่ ทำเลศักยภาพย่านธุรกิจแห่งอนาคตอโศก-พระราม 9 พรั่งพร้อมด้วยห้างสรรพสินค้าและแหล่งชอปปิ้ง โรงเรียน อาคารสำนักงาน ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคม สะดวกทั้งการใช้รถยนต์ส่วนตัว และระบบขนส่งสาธารณะ ตั้งอยู่บนทำเลเชื่อมต่อที่สำคัญและดีที่สุดบริเวณอโศก-พระราม 9 เพียง 300 เมตรจากรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีพระราม 9 และจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการเดินทางและสีสันการใช้ชีวิต

 

ทั้งนี้ สรุปปี 2561 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 38 โครงการมูลค่า 59,580 ล้านบาท เปิดตัวในครึ่งปีหลังจำนวน 30 โครงการ มูลค่า 49,210 ล้านบาท แบ่งเป็นเปิดตัวในไตรมาส 3 จำนวน 12 โครงการ มูลค่า 17,980 ล้านบาท และไตรมาส 4 จำนวน 18 โครงการ มูลค่า 31,230 ล้านบาท ณ วันที่ 15 กันยายน บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 29,710 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 14,455 ล้านบาท แนวราบมูลค่า 15,255 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 75% ของเป้ายอดขาย      ปี 2561 ที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขาย 39,800 ล้านบาท) สินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 54,255 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 9,675 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 44,580 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) โดยจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566

 

ไลฟ์ อโศก ไฮป์ (LIFE Asoke Hype) จะเปิดจองรอบแรกผ่านระบบ AP i-Booking ในวันอังคารที่ 2 ตุลาคมนี้ เวลา 19.00 – 21.00 น. และมีกำหนดเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้ ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท

Leave A Reply

Your email address will not be published.