“แสนสิริ” ผนึก “โตคิว คอร์เปอเรชั่น” ดึง “สมิติเวช” เปิดตัว “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” คอนโดผู้รักสุขภาพ

1,001

 “แสนสิริ” “โตคิว คอร์เปอเรชั่น” ร่วมด้วย “โรงพยาบาลสมิติเวช” เปิดโครงการ “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์” (Wellness Residence) ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพคอนเซ็ปท์ใหม่ พร้อมรับรองมาตรฐานระดับโลก WELL Certification ในแนวคิดการส่งเสริมสุขภาพดีในทุกๆด้านจากความต้องการของคนทุกวัย มูลค่าโครงการกว่า 2,400 ล้านบาท บนทำกรุงเทพกรีฑา ครบครันด้วยการสร้างคอมมูนิตี้และกิจกรรมไลฟ์สไตล์แห่งการอยู่อาศัยจากแบรนด์ชั้นนำมากมาย เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจที่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ มุ่งพลิกโฉมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีในไทยสอดรับเทรนด์เวลล์เนสโลกและในไทยที่เติบโตขึ้น

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบริหารกลยุทธ์ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน คนเราใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่าเมื่อเทียบกับเวลาในชีวิต และพร้อมจะจ่ายในสิ่งที่ต้องการเพื่อการดูแลสุขภาพ จากบ้านที่เราอาศัยสู่การใช้ชีวิตที่หลากหลายรวมถึงการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ดังนั้น การได้อยู่ในบ้านที่ถูกสร้างเพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดี จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกวัย จากรายงานการศึกษาเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี (Build Well to Live Well 2018) ที่สถาบันสุขภาพโลก (Global Wellness Institute) จัดทำขึ้นในปีนี้ พบว่านับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา การพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มเวลล์เนสเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีทั่วโลกมีมูลค่าตลาดประมาณ 4.4 ล้านล้านบาท หรือ 134,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการเติบโต 6.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมการก่อสร้างของโลกที่เติบโตที่ 1.5% และสามารถทำกำไรเฉลี่ยประมาณ 10-25% โดยปัจจุบัน มีโครงการและชุมชนที่เน้นการสร้างไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพดีประมาณ 740 แห่งทั่วโลก”

  “เวลล์เนส เรสซิเดนซ์ในไทยจากแนวคิดที่ต้องการนำเสนอที่คำนึงถึงการดีไซน์สวยงามที่ตอบโจทย์การใช้งาน (Style Living) เราได้นำแนวคิดการออกแบบที่เข้าใจความต้องการของมนุษย์มาใช้ในการพัฒนาทุกโครงการ ในครั้งนี้ เราจึงได้ร่วมมือกับโตคิว   คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นนักพัฒนาจากญี่ปุ่นที่ รวมถึงร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเกี่ยวกับความเชี่ยวชาญในด้านการยกระดับการดูแลสุขภาพ เพื่อสร้างสรรค์โครงการคอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสุขภาพที่จะยกระดับมาตรฐานโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อไลฟ์สไตล์ที่เน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปอีกขั้น โครงการนี้จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยและคอมมูนิตี้แห่งแรกในประเทศไทยที่พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัยเป็นหัวใจสำคัญ ภายใต้แนวคิด 5 ด้านที่เป็นองค์ประกอบของการส่งเสริมการมีสุขภาพดี ได้แก่ด้านร่างภาย (Body) จิตใจ (Mind) จิตวิญญาณ (Soul) สิ่งแวดล้อม (Environment) และการใช้ชีวิตในสังคมที่รักสุขภาพ (Like minded community) โดยสะท้อนผ่านทั้งในการกำหนดคอนเซ็ปต์ การออกแบบการคัดสรรวัสดุที่ดีต่อสุขภาพ การตกแต่งและใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่เหมาะกับสรีระผู้ใช้งาน  ตลอดจนผสานจุดแข็งของพันธมิตรแต่ละรายเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร เพื่อสร้างสรรค์โครงการที่มีดีไซน์  โดดเด่นเพื่อการมีสุขภาพที่ดีในทุกมิติ”

แสนสิริ, โตคิว กรุ๊ป และ สห โตคิว คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือกันโดยมีสัดส่วนการลงทุน 70:29:1 ตามลำดับ โดยโรงพยาบาลสมิติเวชจะร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์มอบบริการด้านสุขภาพเพื่อสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็น  “Well-Cared” ซึ่งสรรหาโครงการที่อยู่อาศัยที่จะทำให้ตนเองสามารถรักษาสุขภาพดีที่ยืนยาว รวมทั้งมีเพื่อน มีสังคมที่มีความต้องการอย่างเดียวกัน

72990

โครงการคอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสุขภาพแห่งใหม่นี้ เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 อาคาร รวมมูลค่า 2,400 ล้านบาท ที่นอกจากจะส่งเสริมการใช้ชีวิตที่ให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพแล้ว ยังจะเป็นการสร้างชุมชน “Wellness Community” ที่จะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพในองค์รวมได้อย่างครบวงจร โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ บนถนนกรุงเทพกรีฑา ทำเลทองสำหรับการอยู่อาศัยและมีสิ่งแวดล้อมที่สงบ และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์โดยรอบได้อย่างง่ายดาย การออกแบบโครงการเป็นไปตามแนวคิดที่เน้นการเติมเต็มทุกมิติในการใช้ชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความต้องการทางกายภาพ จิตใจ จิตวิญญาณ สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มพรีเซลล์ได้ในปี 2562 นี้ โดยมีจุดเด่นใน 4 ด้าน ได้แก่

ด้านจิตใจ (Mind) จิตวิญญาณ (Soul) และการใช้ชีวิตในสังคมแห่งสุขภาพ (Like-minded community) โครงการคอนโดมิเนียมรูปแบบใหม่สำหรับคนรักสุขภาพแห่งแรกของไทย ที่พรั่งพร้อมด้วยกิจกรรมและบริการจากไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำระดับโลกและในไทยไว้ในที่เดียว โดยร่วมกับพันธมิตรจัดกิจกรรมและบริการต่างๆ ที่ส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันนี้ เพื่อพัฒนาการด้านสุขภาพร่างกาย (Body) สุขภาพความคิดและจิตใจ (Mind&Soul) สังคมของผู้ที่มีความชอบคล้ายกัน (Like-minded Community) และการวางแผนชีวิตทางการเงิน (Wealth)

ด้านสุขภาพร่างกาย (Body)โครงการที่อยู่อาศัยแห่งแรกของไทยที่ออกแบบด้วยยูนิเวอร์แซล ดีไซน์ (Universal Design) และให้ความสำคัญกับความสวยงาม (Aesthetic Universal Design) การจัดการพื้นที่ให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงความต้องการในอนาคตทั้งในที่พักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ (Space planning & Ergonomic Design) โดยผสานการออกแบบที่โดดเด่นผ่านความเชี่ยวชาญร่วมกับพันธมิตรอย่างโตคิว

โครงการแรกของไทยที่มีโซลูชั่นเพื่อสุขภาพที่ครบวงจร บริการผ่านการใช้เทคโนโลยี Tele-health และ Plus+ Service โรงพยาบาลสมิติเวช จะนำนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพมาใช้เพื่อช่วยให้เราเห็น ป้องกัน และวางแผนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างครบวงจร ผู้อยู่อาศัยในโครงการจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ บริการเพื่อสุขภาพ และได้รับคำปรึกษา ตลอดจนบริการส่งเสริมสุขภาพทั้งทางกายภาพและจิตใจ ผ่านบริการโดยตรงและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ บริการด้านสุขภาพสำหรับผู้อยู่อาศัยจะเน้นการป้องกัน และการให้คำปรึกษา เช่น การตรวจสุขภาพก่อนย้ายเข้าโครงการ การให้ความรู้ส่งเสริมสุขภาพ และการตรวจหาปัญหาสุขภาพ ตลอดจนโปรแกรมอื่นๆ เช่น การตรวจสอบทางพันธุกรรมและการแพทย์ ที่เจาะลึกระดับยีน (Precision Medicine) รวมทั้งอุปกรณ์ตรวจสุขภาพเพื่อให้คำแนะนำด้านสุขภาพแก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างทันท่วงทีผ่านการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ (Tele-health) นอกจากนี้ แสนสิริยังจะนำบริการ Plus+ Service มาใช้ โดยเป็นแนวคิดด้านการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์แรกของไทยซึ่งมีโรงพยาบาลสมิติเวชเป็นผู้ให้ความรู้และฝึกอบรม เพื่อให้ข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าในโครงการ รวมทั้งบริการฉุกเฉินตลอดเวลา

 

 ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) มาตรฐานบทใหม่ของโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่สำหรับคนรักสุขภาพในประเทศไทยที่ยกระดับสู่การรับรองมาตรฐานระดับโลก WELL Certification จากสถาบัน WELL Building InstituteTM ในสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างโมเดลใหม่ในการพัฒนาโครงการ ที่ผสานจุดเด่นด้านการดูแลสุขภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมอย่างกลมกลืน โดยให้ความสำคัญกับ 11 ปัจจัยหลัก ได้แก่ อากาศ น้ำ โภชนาการ แสง      การเคลื่อนไหว ความสบาย เสียง วัสดุ จิตใจ ชุมชน สังคม และ นวัตกรรม  WELL (เวลล์) เป็นมาตรฐานรับรองแรกที่รับประกันประสิทธิภาพของระบบโดยวัดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่มีต่อสุขภาพ และเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับโลก

 

 

Leave A Reply

Your email address will not be published.