แสนสิริ ส่ง “เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ” บนทำเลใจกลางเมือง” สู่ทุกไลฟ์สไตล์
แสนสิริเชื่อมั่นตลาดที่อยู่อาศัยกลุ่มเรียลดีมานด์ยังคงมีอุปสงค์ในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัยจริง ส่งคอนโดในราคาที่เข้าถึงได้เป็นหัวหอกลุยตลาดปี 2562-2563
“เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ
(THE BASE Phetchaburi-Thonglor)” คอนโดมิเนียมใจกลางกรุงโครงการแรกของแสนสิริ
ในปี 2562 ชูแนวคิด “ค้นพบพื้นที่ที่ใช่ บนทำเลใจกลางเมือง (Yours to Discover)” ด้วยทำเลศักยภาพระดับไพรม์โลเคชั่นบนถนนเพชรบุรี สะท้อนพื้นที่อยู่อาศัยของชุมชนที่แท้จริง เชื่อมต่อสู่ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ทั้งกิน ช้อป เที่ยว และทำงาน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่บ่งบอกตัวตนและความภาคภูมิใจของผู้อยู่อาศัยในแบบของตัวเองตามคอนเซ็ปต์ “Trophy of Life” เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ในราคาที่ดีที่สุดในย่านเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท
โครงการ “เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ” ถือเป็นคอนโดมิเนียมโครงการล่าสุดภายใต้แบรนด์
“เดอะ เบส” ด้วยมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ค้นพบพื้นที่ที่ใช่
บนทำเลใจกลางเมือง (Yours to Discover)” สะท้อนความโดดเด่นของที่ตั้งโครงการบนเพชรบุรี
สามารถเชื่อมต่อสู่ ทุกซิตี้ไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ทั้ง กิน ช้อป เที่ยว และทำงาน โดยรูปแบบของโครงการเป็นอาคารที่พักอาศัย 36 ชั้น 496 ยูนิตบนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ พร้อมมอบความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยแบบ Low Density ด้วยจำกัดจำนวนยูนิตในแต่ละชั้นไม่เกิน 17 ยูนิต โดยมีประเภทห้องให้
เลือกสรรทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน รองรับทั้งการอยู่อาศัยคนเดียวและอยู่เป็นครอบครัวตั้งแต่ 27.25-61.25 ตร.ม. มีกำหนดที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปี 2565
การออกแบบนั้นเพื่อสะท้อนความภาคภูมิใจของผู้อยู่อาศัยผ่านดีไซน์โครงการในแนวคิด
‘Trophy of Life’ เปรียบเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จ อันโดดเด่นตามจุดมุ่งหมายที่ตนเองตั้งไว้โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร โดยการออกแบบตัวอาคารภายนอกได้นำเอารูปทรงและแสงสีของตึกระฟ้าที่สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของย่านเพชรบุรี มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ด้านการออกแบบ
ภายในของพื้นที่ส่วนกลางเน้นการใช้วัสดุไม้และทองเหลือง รวมถึงสีโทนอบอุ่นเพื่อล้อไปกับสีสันภายนอกของอาคารอย่างลงตัว ทั้งยังสอดแทรกความใกล้ชิดธรรมชาติด้วยภูมิสถาปัตย์ที่มีพื้นที่สีเขียวเกือบ 1 ไร่ ทั้งบริเวณสวนหน้าโครงการ และ Rooftop Garden ตลอดจนยกระดับการใช้ชีวิตด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในห้องด้วยรูปแบบของห้องหลากหลายขนาด พร้อมเน้นความสะดวกต่อใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ด้วยการตกแต่งภายในแบบ Fully Fitted เหมาะแก่การใช้งานอย่างเต็มพื้นที่ แต่ก็ให้อิสระในการออกแบบตกแต่งได้ตามความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย”
“ภายในตัวโครงการเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกถึง 1 ไร่ครึ่ง รองรับการใช้ชีวิตแบบในเมือง อาทิ คลับเฮ้าส์แบบ Stylish Cafe ในรูปแบบเรือนกระจก รายล้อมด้วยสวนสวย, ร้านสะดวกซื้อ
24 ชม. รวมถึง Creative Co-working Hub ที่ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวในพื้นที่อยู่อาศัย นอกจากนี้พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 36 ยังได้จัดเตรียม Sky Lounge ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนหรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ส่วนตัวด้วย City View ได้ถึง 270 องศา พร้อม Sky Theater ห้องความบันเทิงเอนกประสงค์ ได้ในห้องเดียว นอกจากนี้ยังมี Roof Terrace พื้นที่พักผ่อนกลางแจ้งรายล้อมด้วยสวนสวยบนดาดฟ้าโครงการและ Backyard Garden พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวส่วนกลางที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถปลูกและเก็บไปประกอบอาหารรับประทานได้”