เอพี ไทยแลนด์ รับ 3 รางวัลด้านตลาดทุน จาก IAA Awards for Listed Companies 2024 BEST
เอพี ไทยแลนด์ รับ 3 รางวัลด้านตลาดทุน จาก IAA Awards for Listed Companies 2024 BEST CEO หนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พร้อมอีก 2 รางวัล OUTSTANDING CFO และ OUTSTANDING IR คัดเลือกโดยนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ ผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และผู้ลงทุนสถาบัน
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี ไทยแลนด์ รับรางวัล BEST CEO หนึ่งเดียวในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากงาน IAA Awards for Listed Companies 2024 จัดโดยสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ที่ต้องการยกย่องผู้บริหารในตลาดทุนที่มีศักยภาพที่โดดเด่น และมีความเป็นเลิศในการบริหารงานในอุตสาหกรรมของตนอย่างแท้จริง ตลอดจนความสามารถในการนำพาองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของเศรษฐกิจตลาดทุน และประเทศไทยโดยรวม
พร้อมด้วยอีก 2 รางวัลกับ OUTSTANDING CFO และ OUTSTANDING IR โดยมีนางสาวกรองทอง ปลูกผลงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี เป็นผู้รับมอบ โดยทั้ง 3 รางวัลทรงคุณค่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์และผู้จัดการกองทุนมีต่อ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ นับเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจและกำลังใจอันสำคัญให้กับทีมงานทุกคนของเอพีในการดำเนินธุรกิจตามคำมั่นสัญญา “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้”
IAA Awards for Listed Companies เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มาจากการโหวตของนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน และผู้ลงทุนสถาบัน เพื่อมอบให้กับผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน ครอบคลุมกว่า 14 อุตสาหกรรม ที่มีความโดดเด่น ความรู้ความสามารถในการบริหารงานที่เป็นเลิศ นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพได้อย่างตรงประเด็นและชัดเจน พร้อมดำเนินธุรกิจตามหลักจรรยาบรรณและบรรษัทภิบาลที่ดี ให้เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เอพี ไทยแลนด์ ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน “SET ESG Ratings” ในระดับ “AA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และได้รับการประเมินเครดิตองค์กรจากทริสเรทติ้ง ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” พร้อมเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งเป็นหนึ่ง ผ่านวินัยทางการเงินที่เข้มงวด บริษัทฯ สามารถรักษาสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนไม่เกิน 0.83 เท่า มั่นใจมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอสนับสนุนธุรกิจในระยะยาว