“DCON” จ่อร่วมทุน PRINหลังถือหุ้น 25% ลุยทาวน์โฮม “ซิตี้ เซนส์ บางนา-ตราด” ผุดนวัตกรรมพิสูจน์คุณภาพเสาเข็มตอบโจทย์รับเหมา-ผู้ซื้อบ้าน
“ดีคอนโปรดักส์” รุกตลาดพัฒนาที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง เล็งร่วมทุน “ปริญสิริ” ลุยทาวน์โฮม “ซิตี้ เซนส์ บางนา-ตราด” มูลค่าโครงการกว่า 950 ล้าน หลังเข้าถือหุ้น PRIN แล้วสัดส่วน 25% หวังใช้ความแข็งแกร่งด้านวัสดุก่อสร้างและด้านการพัฒนาโครงการเติมเต็มกันและกัน ปลื้มกระแสตอบรับธุรกิจใหม่ยอดเยี่ยม เปิดตัวนวัตกรรมบันทึกคุณภาพเสาเข็ม ตอบโจทย์ผู้รับเหมาและผู้ซื้อบ้านสามารถตรวจสอบภาพการตอกเสาเข็มทุกต้น เพิ่มความมั่นใจในการใช้เสาเข็มและอยู่อาศัย
นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DCONผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัทจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ในสัดส่วน 49 ต่อ 51 ในการพัฒนาโครงการ “ซิตี้ เซนส์ บางนา-ตราด” (City Sense Bangna-Trad)โครงการทาวน์โฮม 384 ยูนิต มูลค่าโครงการ 958 ล้านบาท บนที่ดินของบริษัทในเครือดีคอน เพื่อเดินหน้าในธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กลุ่มดีคอนได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับ 2 ใน PRIN ด้วยสัดส่วนรวมกว่า 25% ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และมีตัวแทนของกลุ่มคือนายนิรุธ อินทรท่าฉาง รองกรรมการผู้จัดการ DCON ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการของ PRIN ตั้งแต่วันที่ 17ก.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการดังกล่าวได้ในช่วงเดือน ก.ค.64
“เราเองมีความเชี่ยวชาญในเรื่องวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเรื่องเสาเข็ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการก่อสร้างบ้านจัดสรร ขณะที่ปริญสิริเองก็มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากว่า 2 ทศวรรษ และเชี่ยวชาญการพัฒนาโครงการในหลากหลายทำเล เราเชื่อว่าความสามารถในทั้ง 2 ส่วนนี้จะช่วยเติมเต็มกันและกัน และทำให้โครงการร่วมทุนระหว่างกันโครงการแรก เป็นโครงการคุณภาพที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี” นายวิทวัส กล่าว
อย่างไรก็ดี นอกจากธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน อาทิ ธุรกิจโรงงานผนังสำเร็จรูปพรีคาสท์ ที่เพิ่งเปิดตัวและเริ่มดำเนินการผลิตเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ทั้งในแง่ของคุณภาพการผลิตโดยเครื่องจักรนำเข้าจากเยอรมนี เทรนด์ที่ผู้พัฒนาโครงการหันมาใช้ผนังแบบพรีคาสท์มากขึ้น โดยเริ่มทยอยลงนามสัญญาซื้อขายติดตั้งพรีคาสท์เป็นระยะๆ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการผลิตมา
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีบันทึกคุณภาพเสาเข็ม โดยจะมีวิดีโอบันทึกภาพของเสาเข็มทุกต้นว่าสามารถรับน้ำหนักได้ตามรายการคำนวณ เป็นหลักฐานพิสูจน์ความแข็งแรงของเสาเข็มดีคอน ซึ่งสามารถช่วยทั้งผู้รับเหมาและผู้ซื้อบ้านให้สามารถพิสูจน์ได้ว่า บ้านที่ซื้อไปได้รับการตอกเสาเข็มอย่างแข็งแรง เพิ่มความมั่นใจของผู้รับเหมาในการเลือกใช้เสาเข็ม และเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อบ้านในการได้บ้านที่ก่อสร้างอย่างแข็งแรง
“ในอดีตการตรวจสอบความสามารถการรับน้ำหนักของเสาเข็ม จะใช้วิธีนับการตอก10 ครั้งสุดท้าย ว่าเสาเข็มเคลื่อนตัวลึกลงไปได้ เท่ากับระยะที่คำนวณไว้หรือไม่ ซึ่งลูกค้ายังไม่สามารถยืนยันว่าสามารถรับน้ำหนักได้จริงตามรายงานหรือไม่ แต่ด้วยปณิธานของดีคอนไม่เพียงแต่เชื่อว่าดี แต่ต้องรู้ว่าดี สามารถพิสูจน์ได้ เราจึงเริ่มนวัตกรรมใหม่ในการส่งมอบงานเสาเข็ม นอกจากลูกค้าจะได้รับรายงานการทดสอบการตอก10 ครั้งสุดท้ายตามปกติแล้ว ลูกค้าสามารถเรียกดูภาพวิดีโอจริง จากการตอกย้อนหลังทุกต้น เก็บเป็นหลักฐานไว้ที่บริษัท” นายวิทวัส กล่าว
สำหรับ บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ขึ้นสู่ปีที่ 24 เป็นผู้ผลิตแผ่นพื้นคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูป และเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง สำหรับบ้านพักอาศัยที่มีกำลังผลิตสูงสุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตกว่า 3 แสนตารางเมตรต่อเดือน และยังเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างอีกหลายประเภท อาทิ แผ่นพื้น Hollow core, บล็อคมวลเบาสีเทาระบบ CLC รั้วสำเร็จรูปหลากหลายชนิด มีวิสัยทัศน์ในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้บริษัทสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น เปรียบเสมือนการจะเป็นพ่อครัวที่เก่งได้ ต้องเป็นนักชิมที่เก่งด้วย ดังนั้นการเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่โดนใจนักจัดสรร ต้องเป็นผู้จัดสรรที่มีฝีมือและเข้าใจความต้องการของลูกค้า