กานดา พร็อพเพอร์ตี้ เดินหน้าลุยบ้านพร้อมขาย พร้อมต่อยอด Eco Smart จัดโปรแจกโซล่าเซลล์

197

กานดา พร็อพเพอร์ตี้ วางกลยุทธ์ตั้งรับแตะเบรกลงทุนใหม่ปี 67 เปิด 1 โครงการ เน้นทำตลาด 18 โครงการพร้อมขาย ตั้งเป้ายอดขาย 2,800 ล้าน รายได้ 2,000 ล้าน พร้อมเดินหน้าต่อยอดแนวคิด Eco Smart รวมพลังรักษ์โลก จัดโปรแจกโซล่าเซลล์บ้านทุกหลัง

นายหัสกร บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
นายหัสกร บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

นายหัสกร บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2567 ยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูง ขณะเดียวกันกำลังซื้อของผู้บริโภคก็อ่อนตัวลงไปมากจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อความสามารถในการขอสินเชื่อของผู้บริโภคลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

จากสถานการณ์ดังกล่าว การดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้จึงเน้นกลยุทธ์ในการตั้งรับ โดยมีโครงการเปิดใหม่เป็นโครงการขนาดเล็กเพียง 1 โครงการ ได้แก่ โครงการไอลีฟ บิส พระราม 2 กม.14  อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พร้อมกับโฟกัสการทำตลาดโครงการที่อยู่ระหว่างการขายรวมกันทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่าขายรวม 10,000 ล้านบาท ประกอบด้วย

1.ไอลีฟ ไพร์ม รามอินทรา-คู้บอน 

2.ไอลีฟ ไพร์ม พระราม 2 กม.14 

72990

3. ไอลีฟ ไพร์ม 2 พระราม 2 กม.14

4.ไอลีฟ พราวด์  พระราม 2 กม.14 

5.ไอลีฟ บิส พระราม 2 กม.14 

6.ไอลีฟ ไพร์ม ประชาอุทิศ 90 

7.ไอลีฟ ไพร์ม 2 ประชาอุทิศ 90 

8. ไอลีฟ ทาวน์ เศรษฐกิจ-บางปลา

9. ไอลีฟ ไพร์ม เศรษฐกิจ-บางปลา

10.ไอลีฟ ทาวน์ ราชพฤกษ์-กาญจนาฯ

11.ไอลีฟ ไพร์ม วงแหวน-รังสิตคลอง 4

12.ไอลีฟ พราวด์ วงแหวน-รังสิตคลอง 4

13.ไอลีฟ ไพร์ม ลำลูกกา-คลอง 2

14. กานดา เพลส วงแหวนลำลูกกาคลอง6 

15.ไอลีฟ ทาวน์ เทพารักษ์-บางบ่อ

16.ไอลีฟ พาร์ค เทพารักษ์-บางบ่อ 

17.ไอลีฟ ไพร์ม พัทยา-จอมเทียน 

18.ไอลีฟ ไพร์ม 2 (ถลาง) ภูเก็ต

 

“กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกานดา พร็อพเพอร์ตี้ในปีนี้จะไม่มีการลงทุนเพิ่ม ไม่ซื้อที่ดินเพิ่ม และหันไปโฟกัสกับ 18 โครงการที่มีอยู่แล้วในการสร้างรายได้สำหรับปี 2567 โดยตั้งเป้ายอดขายรวมที่ 2,800 ล้านบาทและตั้งเป้ารายได้ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับยอดขายและรายได้ในปี 2566 ส่วนการลงทุนเปิดโครงการใหม่จะรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นก่อน โดยในปี 2568 คาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่ประมาณ 3 โครงการ” นายหัสกรกล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเน้นย้ำการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด 5 Kanda Concept ซึ่งประกอบด้วย

1.Multi Generation การให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันของครอบครัว

2.Easy Maintenance การออกแบบให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา

3.Eco Smart การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

4.Flood Protection การป้องกันอุทกภัยในทุกโครงการ

5.Space Matter การให้ความสำคัญกับการออกแบบทุกพื้นที่ใช้สอย

 

สำหรับในปีนี้แนวคิดที่บริษัทจะนำมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าให้มากขึ้นคือเรื่องของ Eco Smart โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ให้กับลูกค้า เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า ลดการใช้พลังงาน และยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า

“ปัจจุบันทุกคนตระหนักในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งในภาพใหญ่ระดับโลกเรากำลังเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change มีการรณรงค์เพื่อลดโลกร้อน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้ซึมซับนำเอาเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อมในด้านต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Eco Smart ซึ่งได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี โดยมีเป้าหมายให้การพัฒนาโครงการของบริษัทมีความ  Eco มากขึ้น มีเป้าหมายสู่ Net Zero มากขึ้น สามารถช่วยโลกได้มากขึ้น

เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย อย่างเช่นการคัดแยกขยะ การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนมาถึงการใช้หลอดไฟ LED กับบ้านทั้งหลังที่ช่วยลดการใช้พลังงานได้เกิน 50% การใช้กระจกเขียวตัดแสง การติดตั้งพัดลมดูดอากาศช่วยลดความร้อน การใช้ไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ในจุดที่มีความคุ้มค่า เช่นในสวนสาธารณะ ในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ  เป็นต้น

ล่าสุดคือการติดตั้งโซล่าเซลล์ให้กับลูกค้าทุกหลัง ซึ่งถือว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของแนวคิด Eco Smart ที่จะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้า และลดการใช้พลังงาน โดยหากคำนวณจากประมาณการการขายในระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ 2567-2570 บริษัทคาดว่าจะสามารถติดตั้งโซล่าเซลล์ ได้รวม 9,600 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 19,710,000 กิโลวัตต์ คิดเป็นปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ 8,652,480 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 969,000 ต้น” นายหัสกรกล่าว

นอกจากนี้ ฟังก์ชั่นของบ้านทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมของบริษัทยังคงมีจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยที่ให้มากกว่า มีการจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ ภายใต้แนวคิด Space Matter ที่ให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ใช้สอยในบ้าน และบ้านทุกแบบทุกประเภทยังคงมี 4 ห้องนอน โดยมีห้องนอนชั้นล่างสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้งานได้จริง และยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ได้ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้า รวมถึงเรื่องของความ Privacy โดยการใส่ห้องน้ำส่วนตัวสำหรับห้องนอนใหญ่ ทำให้ทาวน์โฮมเกือบทุกแบบของบริษัทจะมี 4 ห้องนอน และ 3 ห้องน้ำ (มีห้องน้ำในตัวห้องนอนใหญ่) ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

“บริษัทมองว่าคุณภาพชีวิตที่ต้องการความเป็นส่วนตัวไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝดถึงจะได้ความเป็นส่วนตัว เพราะด้วยงบประมาณ 2 ล้านบาทบวก-ลบ ก็สามารถซื้อทาวน์โฮม 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เทียบเท่ากับกับการอยู่บ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝด  ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบฟังก์ชั่นให้สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริงๆ”

นายหัสกร กล่าวอีกว่า การแข่งขันในตลาดที่อยู่อาศัยไตรมาสที่ 1 ต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 เป็นไปอย่างรุนแรง บริษัทจึงได้มีการจัดโปรโมชั่นออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายตั้งแต่ช่วงต้นปีโดยเฉพาะในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่มียอดขายสูงที่สุดในรอบ 3 ปีหลัง โดยมียอดขายเติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การที่ยอดขายเติบโตขึ้นไม่ได้เกิดจากการที่ตลาดดีขึ้นในภาพรวม แต่เป็นเพราะทุกบริษัทออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการขาย

ขณะที่มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลืออย่างละ 0.01% พร้อมทั้งขยายเพดานราคาที่อยู่อาศัยจาก 3 ล้านบาท เป็น 7 ล้านบาท จะสามารถช่วยสร้างแรงกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้ดีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาและอุปสรรคที่หากภาครัฐสามารถเข้ามาแก้ไขได้จะถือว่าเกิดประโยชน์อย่างยิ่งกับตลาดที่อยู่อาศัยคือ ปัญหาการถูกปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

“ความต้องการที่จะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเชื่อว่าไม่ได้ลดน้อยลง การที่ภาครัฐกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง เป็นการกระตุ้นภาคที่อยู่อาศัย แต่ปัญหาของการกู้ไม่ผ่านก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามาบั่นทอนการกระตุ้นในส่วนนี้ ถ้ามีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐจะมีการสนับสนุนให้สามารถขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ” นายหัสกรกล่าวทิ้งท้าย

Leave A Reply

Your email address will not be published.