“ทีฆา เรียลเอสเตท” ลงสนามสู้ศึกพัฒนาอสังหาฯ ตั้งเป้า 5 ปี ผุดแนวราบ 3 โครงการ

1,025

“ทีฆา เรียลเอสเตท” ลงสนามสู้ศึกพัฒนาอสังหาฯ

ตั้งเป้า 5 ปี ผุดแนวราบ 3 โครงการ

 

“ทีฆา เรียลเอสเตท” วางแผน 5 ปี เล็งผุด 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,100 ล้านบาท – 3,000 ล้านบาท ชูจุดเด่นจากประสบการณ์รับเหมาก่อสร้างมานานกว่า 35 ปี อยู่เคียงข้างการพัฒนา มั่นใจในคุณภาพสินค้าโครงการทุกหลังได้มาตรฐาน และราคาบ้านเป็นมิตร [Organic Price] กับผู้บริโภค

          นายพีระวัฒน์ วานิชวัฒน์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในช่วงที่เติบโตไม่มากนัก บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสที่จะลงสนามเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว เพราะมั่นใจในศักยภาพและประสบการณ์ที่มีมา โดยการเข้าก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้ บริษัท ทีฆา เรียลเอสเตท จำกัด ได้รับการสนับสนุนในด้านแนวคิดและให้คำปรึกษา จาก นายวีระศักดิ์          วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฑีฆา ก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการรับเหมาก่อสร้างและมีความเชี่ยวชาญ เข้าใจในขั้นตอนการผลิตและก่อสร้างที่เป็นที่ยอมรับในวงการมาอย่างยาวนาน กว่า 35 ปี ทำให้รู้ขั้นตอนการผลิตและก่อสร้างได้เป็นอย่างดี  ประกอบกับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลประกอบการที่ดี แม้ว่าจะใช้เงินลงทุนสูงก็ตาม หากสามารถบริหารจัดการได้ดี ก็จะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นถึง 5-10%

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตของ ทีฆา เรียลเอสเตท ในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ (ปี 2562-2566) จะพัฒนาโครงการแนวราบประมาณ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,100-3,000 ล้านบาท (แต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 700-1,000 ล้านบาท) ซึ่งหากเป็นโครงการในย่านนนทบุรี จะเป็นทำเลไม่เกินวงแหวนรอบนอก ขณะที่โซนรามอินทรา จะไม่เกินห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ และหากเป็นทำเล   บางนา จะไม่เกินย่านถนนกิ่งแก้ว เป็นต้น

72990

“ ทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ ทีฆา เรียลเอสเตท จะเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด ที่ระดับราคาขายที่ 3-7 ล้านบาทต่อยูนิต กระจายในย่านชานเมืองกรุงเทพฯ โดยจะเน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการ (ดีมานด์) รองรับ เพื่อพัฒนาโครงการที่สามารถตอบโจทย์ได้ดี ซึ่งอาจจะแบ่งแยกแบรนด์ตามเซกเมนต์ที่พัฒนา ” นายพีระวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทจะเริ่มเผยแพร่ข้อมูลองค์กรและทำการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ การจดจำ และเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคในลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยจะเน้นจุดแข็งด้านพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ การบริการ ทั้งก่อนและหลังการขาย การช่วยเหลือลูกค้าเรื่องสินเชื่อ ด้วยการช่วยตรวจสอบ กลั่นกรองให้ในเบื้องต้นก่อนที่จะยื่นให้กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะทำให้ลดการถูกปฏิเสธสินเชื่อได้น้อยลง

โดยโครงการแรกที่บริษัทเริ่มพัฒนา คือ “ดิ เอสเซนส์ ชัยพฤกษ์-วงแหวน” (The Essence Chaiyaphruek-Wongwaen) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 43 ไร่ ทำเลบ้านกล้วย-ไทรน้อย พัฒนาในรูปแบบของทาวน์เฮาส์ ขนาดตั้งแต่ 16.5-22 ตารางวา ราคาขายตั้งแต่ 1.55-2.2 ล้านบาทต่อยูนิต และบ้านแฝด ขนาดตั้งแต่ 35-50 ตารางวา ราคาขายตั้งแต่ 2.89 ล้านบาท – 3.3 ล้านบาท รวมจำนวน 421 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 950 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส เฟสละ 100 กว่ายูนิต โดยเปิดการขายเฟสที่ 1 ตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 50% ขณะที่เฟสที่ 2 บริษัทมีแผนจะเปิดการขายในช่วงต้นปี 2563 และ เฟสที่ 3 จะเปิดขายในปลายปี 2563 ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ภายในปลายปี 2564

 

Leave A Reply

Your email address will not be published.