สิงห์ งัดแบรนด์ “สันติบุรี” จับกลุ่มเจ้าสัว 1000 ล้าน
ไม่รวยจริงไม่มีสิทธิ์ ราคา 240-350 ล้าน/หลัง
“แพงสุดบ้านจัดสรรไทย”
“สันติบุรี” ชื่อนี้ใครก็รู้ มีที่มาจากชื่อเจ้าสัวน้ำเมา แบรนด์ เบียร์สิงห์ สันติ ภิรมณ์ภักดี สร้างแบรนด์ “สันติบุรี” ที่บงบอกถึงสินค้าระดับพรีเมียม ที่เจ้าสั่วใช้ชื่อตัวเองพัฒนามากว่า 30 ปี มีทั้ง โรงแรม สนามกอล์ฟ บนเกาะภูเก็ต สมุย หรือเชียงใหม่ สร้างความจดจำกับคนทั้งในและต่างประเทศมายาวนาน
วันนี้เรือธงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ สิงห์ เอสเตท ของ “เจ้าสัวสันติ” กำลังไต่ระดับขึ้นชั้นดีเวลลอปเปอร์ มืออาชีพ เพียบพร้อม ทั้งเงินทุนและวิชั่น งัดหมัดเด็ด นำแบรนด์ “สันติบุรี” สร้างปรากฎการณ์ บ้านจัดสรรที่แพงที่สุดในเมืองไทย กลางเมืองย่านเลี่ยบด่วนรามอินทรา ในราคาเริ่มต้น ที่หลังละ 240 ล้านบาท จนถึง 360ล้าน และมีแค่ 25 หลัง จัดว่าเป็นบ้านจัดสรรที่แพงที่สุดในประเทศไทย สะท้อนมุมมองผู้คนที่รับรู้ข่าวสาร มีปุจฉา ขึ้นมาในใจทันทีว่า ใครคือลูกค้า 25 รายในโครงการขนาด 45 ไร่ กลางเมืองแห่งนี้….
นายนายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)หรือ S โครงการ“สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” ที่ถือเป็นที่ดิน 1 ใน 3 แปลง ที่ตระกูล “ภิรมย์ภักดี”ซื้อสะสมไว้ตั้งแต่ก่อนที่เดิมตั้งใจจะพัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยวสไตล์ลักชัวรี่ ก็ได้ปรับแผนมาพัฒนาเป็นบ้านที่มีความมากกว่าลักชัวรี่ที่เรียกว่า อัลตราลักชัวรี่ ซึ่งบริษัทฯตั้งใจที่จะให้โครงการดังกล่าวเป็นมาสเตอร์พีซและเป็นโครงการแฟลกชิพของสิงห์ เอสเตท ซึ่งที่ดินทำเลศักยภาพนี้หาได้ยาก และเชื่อว่า “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส”เพื่อผลักดัน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) Leader Premier Developer ในที่สุด
“สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” ที่สุดแห่งความเอ็กซ์คลูซีฟของบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี่ อย่างเป็นทางการด้วยมูลค่าโครงการรวมกว่า6พันล้านบาทในทำเลใกล้เมืองที่สุดบนถนนประดิษฐ์มนูธรรม ที่จัดว่าอยู่ในพื้นที่ที่มีความสะดวกในการเดินทางมาก ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เชื่อมต่อเข้าเมืองได้อย่างสะดวกมากขึ้น
สันติบุรีเดอะเรสซิเดนเซส บนเนื้อที่โครงการกว่า 45 ไร่ ด้วยจำนวนเพียง 25 หลัง ด้วยจำนวนบ้านที่น้อย สันติบุรีเดอะเรสซิเดนเซส เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ผู้ที่สิทธฺ์ซื้อจะได้รับการคัดสรรจากบริษัท ที่ต้องมีคุณสมบัติต้องเป็นบุคคลที่มีประวัติดี มีธุรกิจและมีแอสเสทหลักพันล้านบาท เมื่อลูกค้ามาอยู่ร่วมกันแล้วต้องมีความสงบสุข และอยู่ในสังคมเดียวกัน ขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนแล้วกว่า 100 ราย คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2562 ซึ่งภายในปีนี้จะสามารถโอนที่ดินโครงการนี้ได้ 6 แปลง มูลค่า 600-700 ล้านบาท ด้านการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1ปีครึ่งภายหลังจากที่ปิดการขายแล้ว
สิงห์เอสเตท ในปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท โดยจะมาจากยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม อาทิ ดิ เอส สุขุมวิท36, ดิ เอส อโศก, อีส สุขุมวิท43และสันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ขณะที่รายได้คาดว่าจะสูงกว่า 2,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท