เพอร์เฟค ร่วมทุน เซกิซุย พัฒนาโครงการบ้านนวัตกรรมระบบ “โมดูลาร์”
“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” จับมือพันธมิตร “เซกิซุย เคมิคอล” ประเทศญี่ปุ่น เพื่อการพัฒนาโครงการบ้านระบบ “โมดูลาร์” ยกระดับมาตรฐานสินค้าด้วยเทคโนโลยีก่อสร้างส่งตรงจากญี่ปุ่น พร้อมรูปแบบบ้านที่ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับเมืองไทยมากขึ้น เตรียมเปิดตัวในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 4 ทำเล มูลค่ารวม 2,230 ล้าน รองรับแผนขึ้นแท่นผู้นำตลาดบ้านหรู
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือกับพันธมิตรระดับสากลครั้งล่าสุดว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ผู้นำในธุรกิจรับสร้างบ้านของประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท พีเอฟ–เซกิซุย เจวี จำกัด (PF–Sekisui JV Co.,Ltd.) ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทและเซกิซุย เคมิคอล ถือหุ้นในสัดส่วน 51:49 โดยจะร่วมกันพัฒนาโครงการบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบโมดูลาร์ ในเฟสต่อเนื่องของโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ เบื้องต้นใน 4 โครงการ ทำเล กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง, แจ้งวัฒนะ และ รัตนาธิเบศร์ รวมจำนวน 74 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 2,230 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มบ้านระดับบนที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและนวัตกรรม
“การร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการยกระดับมาตรฐานและภาพลักษณ์สินค้าไปสู่ระดับสากล ซึ่งบริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความร่วมมือกับบริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ในครั้งนี้ ทั้งนี้ บ้านระบบโมดูลาร์ของเซกิซุยฯ เป็นนวัตกรรมที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น ได้รับการยอมรับในเรื่องของเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ก้าวหน้า และยกระดับคุณภาพบ้านได้ตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง จึงมั่นใจในการนำบ้านระบบโมดูลาร์มาเสริมความแข็งแกร่ง และเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้ซื้อบ้านในโครงการ โดยบริษัทยังวาง เป้าหมายขึ้นเป็นผู้นำในตลาดบ้านหรูระดับบนภายในระยะ 3 ปีข้างหน้า วางเป้าจะมีส่วนแบ่งในตลาดบ้านระดับบน เพิ่มเป็นปีละ 4,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมมือกับเซกิซุยฯ ในครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถพัฒนาโครงการได้เร็วขึ้น เพิ่มส่วนแบ่งในตลาดบ้านกลุ่มพรีเมี่ยม”
นายชุนอิจิ เซคิกุจิ (Mr. Shunichi Sekiguchi) President of Sekisui Chemical Co.,Ltd. Housing Company เปิดเผยว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นการนำความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของทั้งสององค์กรมาประสานให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน โดย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีจุดเด่นทั้งในเรื่องการคัดสรรทำเล การพัฒนาโครงการที่มีสภาพ แวดล้อมที่ดี และมีความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าชาวไทย ขณะที่เซกิซุยฯ มีจุดแข็งในด้านการผลิตสินค้าคุณภาพสูง มีประสบการณ์ในการก่อสร้างบ้านระบบโมดูลาร์ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและไทย รวมถึงยังมีโรงงานผลิตที่มีศักยภาพในการผลิตแบบจำนวนมาก จึงทำให้เซกิซุยฯ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดี ให้กับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยได้แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงผลิต ส่งมอบ และบริการหลังการขาย
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ทำการคัดสรรทำเลที่ดินที่เหมาะสม ส่วนการออกแบบบ้านเป็นการทำงานร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยมีให้เลือก 4 แบบ ระดับราคา 25-60 ล้านบาท ขนาดตั้งแต่ 255-475 ตร.ม. เป็นรูปแบบเฉพาะสำหรับโครงการของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่นำเอาประสบการณ์ในการออกแบบบ้านหรูระดับบน มาผสมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยของญี่ปุ่น สำหรับส่วนประกอบของบ้านที่จะนำมาประกอบเป็นบ้านระบบโมดูลาร์ ดำเนินการผลิตโดย บริษัท เซกิซุย–เอสซีจี อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เซกิซุย เคมิคอล และ เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง โดยโครงสร้างกว่า 80% จะถูกผลิตในโรงงาน ซึ่งจะทำการผลิตส่วนประกอบของบ้านแยกเป็นส่วนๆ สำเร็จรูป และประกอบชิ้นส่วนของบ้านทั้งหมดจนเรียบร้อย แล้วนำมาติดตั้งที่หน้างาน
บ้านระบบโมดูลาร์ของเซกิซุยในประเทศญี่ปุ่น จะให้ความสำคัญกับคุณภาพการอยู่อาศัยเป็นอันดับแรก และเน้นดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่สำหรับบ้านที่จะก่อสร้างในโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ได้นำรูปแบบที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้อย่างดีอยู่แล้ว มาปรับให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของคนไทยมากขึ้น โดยเลือกใช้ระบบโมดูลาร์สำหรับส่วนที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ส่วนภายนอกยังใช้โครงสร้างแบบดั้งเดิม (Conventional) เพื่อความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม ซึ่งนับเป็นการนำเทคโนโลยีการก่อสร้างของญี่ปุ่นและไทยมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ขณะเดียวกัน ยังนำเอาเทคโนโลยีหลากหลายมาใช้ ทั้ง การใช้โครงสร้างเหล็ก ที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างพิถีพิถัน / การประกอบโครงสร้างในโรงงานที่แม่นยำ มีระบบตรวจสอบทุกขั้นตอน / ระบบ Air Factory ที่หมุนเวียนอากาศภายในบ้านเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ / ระบบ Air Tightness การปิดรอยต่อรวมถึงส่วนของกรอบวงกบประตูหน้าต่างอย่างแน่นหนา / ระบบป้องกันความร้อนทั้งหลังคาและผนัง ป้องกันความร้อนจากภายนอก รวมถึง การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง แข็งแกร่งอายุการใช้งานยาวนาน อยู่สบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม