ตลาดคอนโด ปี 60 ทุบสถิติเปิดตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี
เน็กซัสฯ เผยคอนโดเมืองกรุงปี 60 ร้อนแรงสร้างสถิติใหม่ มีจำนวนยูนิตเสนอขายมากที่สุดในรอบ 10 ปี พระโขนง – สวนหลวง ยังเนื้อหอมมีโครงการเปิดขายสูงสุด ในขณะที่ปทุมวัน-ราชเทวี มีการปรับขึ้นของราคาสูงสุดถึง 16%
ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมตลอดปี 2560 ที่ผ่านมา ดูเหมือนยังมีภาวะการแข่งขันที่ดุเดือด จากบรรดาผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ที่เปิดตัวโครงการใหม่กันอย่างต่อเนื่อง แถมยังจัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายกันอย่างร้อนแรง ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมปี 2560 เป็นปีที่มีจำนวนห้องชุดออกสู่ตลาดมากที่สุดในรอบ 10 ปี
จากผลวิจัยล่าสุดของ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ยืนยันตัวเลขว่าขณะนี้มีอุปทานที่ถูกเสนอขายถึง 6.27 หมื่นยูนิต จาก 128 โครงการ เป็นปีที่มีจำนวนห้องชุดออกสู่ตลาดมากที่สุดในรอบ 10 ปี สาเหตุที่ทำให้อุปทานของคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างมากนั้นมาจาก 2 สาเหตุสำคัญ ได้แก่
1. ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ และรายใหม่ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง
2. มีการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ออกมาเป็นจำนวนมาก
นี่คือ เหตุผลี่ทำให้มีจำนวนห้องชุดรวมทั้งตลาดถึง 5.5 แสนหน่วย โดยมีห้องชุดเปิดตัวใหม่ สูงกว่าอัตราเฉลี่ยห้องชุดที่เปิดตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถึง 15% (ห้องชุดที่เปิดตัวใหม่ในปี 2556 – 2560 มีอัตราเฉลี่ย 5.36 หมื่นหน่วยต่อปี)
ขณะที่การพัฒนาโครงการต่างๆ ยังคงขยายตัวออกไปยังทำเลรอบใจกลางเมือง โดยทำเลที่มีอุปทานเพิ่มขึ้นมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ
1. พระโขนง – สวนหลวง จำนวน 1.44 หมื่นหน่วย หรือ 23%
2. พญาไท – รัชดาภิเษก จำนวน 1.32 หมื่นหน่วย หรือ 21%
3. ธนบุรี – เพชรเกษม จำนวน 8,900 หน่วย หรือ 14% โดยทั้งหมดคิดเป็นจำนวนหน่วยมากกว่า 58% ของคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่ทั้งหมด
ด้านการขยายวงการเติบโตของการพัฒนาโครงการ ในแต่ละพื้นที่นั้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมได้ขยายตัวออกไป จากกลางเมืองเป็นอย่างมาก โดยโซนที่มีอัตราการขยายตัวของคอนโดมิเนียมมากที่สุด คือ ธนบุรี – เพชรเกษม โตถึง 107% ตามมาด้วยติวานนท์-รัตนาธิเบศร์ 76% และแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 68% เมื่อเทียบกับปี 2559
อุปสงค์
ภาพรวมของอุปสงค์ในปี 2560 นี้ ยังคงเติบโตได้ดี โดยอุปสงค์หรือยอดขายใหม่ในตลาดอยู่ที่ 5.73 หมื่นหน่วย ซึ่งสูงกว่าอัตราขายเฉลี่ยห้องชุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 14% (อัตราขายเฉลี่ยห้องชุดในปี 2555-2559 มีอัตราเฉลี่ย 5.04 หมื่นหน่วยต่อปี)
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงอัตราการขายรวมของคอนโดมิเนียมทั้งตลาด จะยังคงที่อยู่ที่ 90% (ยอดขายรวมของคอนโดมิเนียมสะสมเพิ่มเป็น 496,100 หน่วย) ซึ่งทำให้ ณ ปัจจุบันมี ห้องชุดเหลือขายอยู่ในตลาดทั้งสิ้นประมาณ 53,900 หน่วย
ในปี 2560 คอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่ในตลาดมียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 62% ทั้งนี้ ทำเลที่มีจำนวนห้องชุดที่ขายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ
1. พระโขนง – สวนหลวง
2. พญาไท – รัชดาภิเษก
3. ปทุมวัน – ราชเทวี
โดยพบว่าพระโขนง – สวนหลวง ยังคงเป็นทำเลยอดนิยม มีห้องชุดเปิดใหม่จำนวนมากในทุกปี และยังคงมีอัตราการขายสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน สำหรับทำเลปทุมวัน – ราชเทวี เป็นเขตที่ห้องชุดเปิดใหม่มียอดขายสูงสุด คือ 88%
ราคา
ในปี 2560 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ลดลง โดยปรับตัวสูงขึ้น 8% จากเดิมเมื่อปี 2559 มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.21 แสนบาทต่อตารางเมตร ปรับขึ้นเป็น 1.306 แสนบาทต่อตารางเมตร ในปี 2560 ซึ่งอัตราการเพิ่มขึ้นนี้ ใกล้เคียงอัตราเฉลี่ยของการเติบโตของราคาคอนโดมิเนียมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9% ต่อปี อย่างไรก็ตาม เมื่อลงมาดูในรายละเอียดจะพบว่า ทำเลที่มีการปรับขึ้นของราคาคอนโดมิเนียมสูงสุด คือ ในเขตปทุมวัน และราชเทวี โดยราคาคอนโดมิเนียม ปรับตัวสูงขึ้นถึง 16% หรือ 2.34 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งปัจจัยมาจากห้องชุดในทำเลนี้ ยังคงเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ราคาต้นทุนที่ดินเพิ่มสูงขึ้น และอุปทานใหม่ในเขตนี้ มีจำนวนไม่มากในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมกลางเมืองนั้น ราคาปรับตัวสูงขึ้นถึง 12% หรือ 2.107 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เขตยานนาวาและเขตคลองสานที่มียอดขายดี ราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นถึง 12% เช่นเดียวกัน สำหรับโครงการในส่วนกรุงเทพชั้นนอก ราคาปรับขึ้นไม่มากนักอยู่ที่ประมาณ 5%