ดีเวลลอปเปอร์ โดดร่วมโปรแกรม Elite Flexible One หวังทุนข้ามชาติระบายสต๊อก-กระตุ้นเศรษฐกิจ
ไทยแลนด์ อีลิท ยัน โปรแกรม “Elite Flexible One” ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ดึงนักลงทุนต่างชาติผ่านบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท คาร์ด ดีเวลลอปเปอร์กว่า 20 บริษัทกว่า 57 โครงการ หวังเป็นช่องทางดงเงินทุนต่างชาติได้แน่
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินงานโครงการบัตรสมาชิกไทยแลนด์ อีลิท กล่าวถึงความคืบหน้าโปรแกรมพิเศษ “Elite Flexible One” ว่าได้มีการเจรจากับผู้ประกอบ การธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พร้อมทำบันทึกความร่วมมือพิเศษโปรแกรม “Elite Flexible One” กว่า 20 ราย จำนวนเบื้องต้น 57 โครงการซึ่งทุกโครงการเป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยุ่อาศัย เป็นโครงการที่เลือกสรรมาจากผู้ประกอบการที่มีศักยภาพทั้งทำเล ขนาดและราคา ที่ตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งหากโครงการนี้สามารถตอบโจทย์ และเป็นที่ต้องการของลูกค้าต่างชาติ ผู้ประกอบการก็สามารถเพิ่มโครงการที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถช่วยดึงกำลังซื้อมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้อีกแนวทางหนึ่ง โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นโครงการที่ขายขาด (Freehold) และ ลีสโฮล (Leasehold)
นอกจากนี้คาดว่าจะมีการส่งโครงการเข้าร่วมโครงการนี้เพิ่มขึ้นถึง 80 โครงการ ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมให้โครงการอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดของโครงการ “Elite Flexible One” โดยแต่ละกลุ่มผู้ประกอบการต่างมีกลยุทธ์ทำการตลาดและการขายแบบเข้าถึงกลุ่ทเป้าหมาย รวมถึงแนะนำบัตร “Elite Flexible One”ให้เป็นที่รู้จักผ่านการโฆษณาในสื่อต่างๆ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีความสารถในการซื้อ
นายสมชัย กล่าวเสริมว่า จากท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 และสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศโดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯที่ได้รับผกระทบอย่างมาก นั้น โปรแกรม “Elite Flexible One” จะเป็นคีย์สำคัฐในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น และยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ประกอบการขายโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ได้อีกช่องทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดีบริษัทที่มีการเจรจาเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 20 บริษัท เช่น บริษัทไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 โครงการ บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จำนวน 8 โครงการ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) จำนวน 6 โครงการ บริษัทออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 5 โครงการ บริษัท อนันดาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 7 โครงการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) จำนวน 9 โครงการ บริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 โครงการ บริษัท 888 ทองหล่อ จำกัด จำนวน 1 โครงการ บริษัท ร่วมอิสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด ในเครือบริษัทชาญอิสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)จำนวน 2 โครงการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด จำนวน 3 โครงการ บริษัทแกรนด์ยูนิตี้ ดิเวลลอปเมนท์ จำนวน 4 โครงการ บริษัทอรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 7 โครงการ เป็นต้น
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า การขายโครงการได้เร็วขึ้น เป็นการช่วยในเรื่องของการสร้างกระแสเงินสด และทำให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ด้วยดี รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ผ่านบัตรสมาชิกในรูปแบบของโปรแกรมพิเศษ “Elite Flexible One” โดยสมาชิกบัตร Elite Flexible One จะต้องมีการลงทุนในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมใหม่ที่ก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในประเทศไทย โดยมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งห้องชุดที่ซื้อนั้นจะต้องเป็นของผู้ประกอบการรายเดียวกัน หรือบริษัทเดียว โดยสามารถซื้อห้องชุดในทำเลต่างๆ มีมูลค่ารวมกันครบ 10 ล้านบาท ในกรณีที่ห้องชุดมีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท หรืออาจเลือกซื้อห้องชุดในโครงการเดียวกัน แต่ต้องมีมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยโครงการ Elite Flexible One
“วัตถุประสงค์ของโปรแกรมพิเศษ “Elite Flexible One” นั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการลงทุนด้านสังหาฯ ในประเทศไทย ผ่านกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการของอสังหาฯ นั้นจะต้องเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทยและต้องมีการทำบันทึกความเข้าใจในข้อตกลดวามร่วมมือกันกับบริษัทฯ จึงจะสามารถดำเนินการในโปรแกรมพิเศษนี้ได้ โดยโปรแกรมพิเศษ Elite Flexible One จะสนับสนุนให้เอกชนจากภาคอสังหาฯ เสนออีลิท คาร์ดขายร่วมในแพกเกจ”
ส่วนคุณสมบัติและเงื่อนไขของบัตรสมาชิกประเภท “Elite Flexible One” ประกอบด้วยผู้สมัครต้องซื้ออสังหาริทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ซึ่งมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และจะได้เป็นสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิท ตามประเภทบัตรที่บริษัทฯ กำหนด นอกจากนี้ผู้สมัครที่ยื่นความประสงค์ขอเข้าร่วมโปรแกรม Elite Flexible One จะต้องแสดงหลักฐานยืนยันกรรมสิทธิ์การถือครองอสังหาริมทรัพย์ในนามของผู้สมัคร ที่มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และห้ามจำนอง จำหน่าย โอน ภายในระยะเวลา 5 ปีรวมถึงเรื่องเอกสารหลักฐานสำหรับการยื่นสมัครบัตรประเภท “Elite Flexible One” ประกอบด้วย หลักฐานยืนยักรรมสิทธิ์การถือครองอสังหาริมทรัพย์ในนามของผู้สมัครที่มีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท หลักฐานการโอนเงินจกต่างประเทศเพื่อการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ผู้สมัครต้องมีหนังสือเดินทางต่างประเทศ และผู้สมัครต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่บริษัทฯ กำหนด