“ลลิล”เชื่อมั่นเศรฐกิจไทย เปิดโปรเจ็กต์ใหม่ 5,000 ล้าน
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ กางแผนปี 2561 เตรียมเปิดโปรเจ็กต์ใหม่ 8 – 10 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้าน พร้อมกวาดยอดรับรู้รายได้ถึง 4,000 ล้านบาท หวังได้รับอานิสงค์เมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล โครงการอีอีซี ระบบขนส่งมวลชน ช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับฟื้นตัวคึกคักอีกครั้ง
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2561 ยังคงมีสัญญาณบวก คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น 3.8-3.9% ผลจากปัจจัยหลัก ด้านการส่งออกที่เติบโตได้ดี ตามความต้องการของตลาดโลก การลงทุนจากภาครัฐกับโครงการเมกะโปรเจกต์มูลค่า 2.7 ล้านล้านบาท โดยปี 2561 จะมีเงินเข้าสู่ระบบ 6 แสนล้านบาท สร้างงานสร้างอาชีพอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ ธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตถึง 15% และการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2561 หรือต้นปี2562 จะเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนมากขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นายไชยยันต์ กล่าวว่า คาดว่าในปี 2561 จะมีการขยายตัวได้ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา จากปัญหาหนี้ครัวเรือนปรับตัวลดลง กำลังซื้อดีขึ้น ซึ้งตลาดแนวราบ เป็นตลาดของผู้ซื้อเพื่ออยู่จริง จะยังคงขยายตัวราว 5-7% ส่วนตลาดที่ควรเฝ้าระวัง คือ ตลาดคอนโดมิเนียม ที่อาจจะมีปริมาณที่เกินความต้องการ (Over Supply) ได้บ้างในบางทำเล
ในส่วนของบริษัทในปี 2561 นี้ ได้ตั้งงบประมาณสำหรับการซื้อที่ดินไว้ 1,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโครงการทั้งหมด 8-10 โครงการ จะอยู่ในโซน ลำลูกกา ประชาอุทิศ ลาดกระบังสุวรรณภูมิ และจ.ชลบุรี มูลค่าประมาณ 4,500-5,000 ล้านบาท โดยจะเน้นลูกค้าที่ซื้ออยู่จริง โดยคงคอนเซ็ปต์ ความคุ้มค่าในการอยู่อาศัยและทำเลที่มีศักยภาพ โดยคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ4,000 ล้านบาท