สมาคมอาคารชุดฯร่อนหนังสือห่วงกรณีคำตัดสินฯ แอชตันอโศก กระทบหนัก วอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สร้างความชัดเจนและสอดคล้องในการปฏิบัติ
สมาคมอาคารชุดไทย หวั่นการณีปัญหา เพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้างโครงการอาคารชุดย่านถนนอโศกมนตรี(แอชตัน อโศก) ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงอุตสาหกรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จี้ส่วนราชการที่มีหน้าที่กำกับดูแล และหรือมีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตสร้างความชัดเจนและสอดคล้องกันในการปฏิบัติ ป้องกันปัญหาการตีความหรือการโต้แย้งสิทธิ หลีกเลี่ยงข้อพิพาทในอนาคต
ในกรณีที่มีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้เพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้างโครงการอาคารชุดย่านถนนอโศกมนตรี โดยที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้คอื โครงการแอชตัน อโศก ของบริษัทอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างเสร็จและมีผู้พักอาศัยมากกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งเนื้อหาในหนังสือของสมาคมอาคารชุดไทย ระบุไว้ดังนี้
เรื่อง คำพิพากษาศาลปกครองกลางให้เพิกถอนการอนุญาตการก่อสร้าง
จากกรณีที่มีคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้เพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้างโครงการอาคารชุดย่านถนนอโศกมนตรี ซึ่งก่อสร้างเสร็จและมีผู้พักอาศัยมากกว่า 2 ปีแล้วนั้น
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการได้รับอนุญาตให้ใช้ทางจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้รับการเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากสำนักงานนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) และได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารจากสำนักการโยธากรุงเทพมหานคร ตลอดจนมีใบอนุญาตเชื่อมทางที่ผ่านการพิจารณาอนุญาตจากสำนักการจราจรและขนส่งและสำนักงานเขต การออกโฉนดห้องชุดโดยสำนักงานที่ดิน โอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้บริโภคโดยมีการจำนองกับสถาบันการเงิน ซึ่งแต่ละกระบวนการมีขั้นตอนการตรวจสอบและอนุญาตจากหลายหน่วยงานที่ต่างก็มีความเชี่ยวชาญชำนาญเฉพาะด้านของตนเอง แต่สุดท้ายมีคำพิพากษาว่าโครงการก่อสร้างโดยไม่ถูกต้อง
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สมาคมมีความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ซื้อที่อยู่อาศัย ธนาคารที่ให้สินเชื่อโครงการและสินเชื่อที่อยู่อาศัย อุตสาห กรรมการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นต้นน้ำที่เกี่ยวพันกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการลงทุนพัฒนาโครงการอาคารชุดในประเทศไทยทั้งจากชาวไทยและต่างชาติต่อไปทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สมาคมจึงขอวิงวอนให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่กำกับดูแล และหรือมีอำนาจหน้าที่ในการอนุญาตต่างๆ ได้มีการพิจารณาทบทวนกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกันในการปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาใด ๆ ที่จะเกิดการตีความหรือการโต้แย้งสิทธิในลักษณะเดียวกันที่จะเกิดขึ้นข้างต้นในอนาคตอีก และเป็นการหลีกเลี่ยงข้อพิพาทว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบและเยียวยาต่อผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบโดยตรง รวมทั้งความเสียหายต่อนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ จะได้มั่นใจกับหนังสืออนุญาตของทางการไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนในระบบเศรษฐกิจไทยต่อไปอย่างยั่งยืน
สมาคมหวังว่าเรื่องนี้จะมีการพิจารณาตอบรับเชิงบวกจากทางการไทยที่ดี เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้