“สิงห์ เอสเตท” คำนึงถึงชุมชนรอบข้าง ร่วมสร้างสังคมคุณภาพ ผ่าน 2แคมเปญ ส่งเสริมรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชนในย่านอโศก-เพชรบุรีชุมชนรอบข้าง สงิห์คอมเพล็กซ์กับ แคมเปญ “Kitchen of the Community” อำนวยความสะดวกด้วยบริการอาหาร และวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี และแคมเปญ “Space for All” เปิดพื้นที่แสดงสินค้าจากธุรกิจสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และนิสิต นักศึกษา เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
โดยอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ ได้นำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ในการสร้างพื้นที่แบบมิกซ์-ยูส ทั้งไลฟ์สไตล์มอลล์ อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม ให้เป็นพื้นที่คุณภาพสำหรับทุกคน โดยเห็นได้จากตัวอย่างสำคัญคือการสร้างแอมพิเธียเตอร์ (Amphitheater) ที่เชื่อมต่อ 4 ชั้นของอาคาร และเปิดให้ประชาชนและนักเรียนนักศึกษาในชุมชนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ รวมทั้งเชื่อมต่อไวไฟความเร็วสูงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันยังมีมาตรการบริหารจัดการขยะเพื่อส่งเสริมการรีไซเคิล และเพิ่มความสะดวกปลอดภัยในการเข้ามาใช้บริการ โดยได้เปิดอุโมงค์เชื่อมต่อรถไฟฟ้าใต้ดินกับอาคารสิงห์ คอมเพล็กซ์ เพื่อความสะดวกในการสัญจรของชุมชน ผู้เช่า และลูกค้า
อย่างไรก็ดีวิกฤติโควิดได้สร้างผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะเรื่องของการขาดรายได้ สิงห์ เอสเตท ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและเล็งเห็นว่าบริษัทฯ สามารถนำพื้นที่ในส่วนธุรกิจอาคารสำนักงานมาช่วยส่งเสริมรายได้เพื่อสร้างชุมชนแวดล้อมให้เข้มแข็ง จึงได้จัดทำแคมเปญที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Kitchen of the Community และ Space for All ซึ่งในแต่ละแคมเปญก็จะมีการจัดกิจกรรมแยกย่อยในแต่ละเดือน
โดยเริมจาก Kitchen of the Community หรือครัวของชุมชน มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพของชุมชน โดยนำสินค้าอาหารที่มีประโยชน์มานำเสนอผ่านงานอีเว้นท์ โดยมีร้านค้าทั้งจากภายในและภายนอกหมุนเวียนกันมาออกบูธ พร้อม เปิดโอกาสให้เกษตรกรมาออกร้านจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดีจากแหล่งผลิต เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจหลังวิกฤตโควิด-19 และอำนวยความสะดวกให้กับชุมชนในการซื้อหาสินค้าสดใหม่โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงฟาร์ม กิจกรรมที่ได้จัดไปแล้วภายใต้แคมเปญนี้ คือ งาน Bangkok Farmers Market ครั้งที่ 1, งาน Full Fat Food Fair, งาน Xiaomi Day และจะมีการจัดงาน Bangkok Farmers Market อีก 3 ครั้งภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมี Space for All หรือพื้นที่แสดงสินค้าที่เปิดกว้างสำหรับชุมชน สตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และนิสิต นักศึกษา รวมถึงธุรกิจนวัตกรรม ซึ่งสิงห์ คอมเพล็กซ์ ได้เปิดโอกาสให้ใช้พื้นที่ในการออกร้านจำหน่ายสินค้า โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย และยังเป็นพื้นที่ให้คนในชุมชนได้มองหาไอเดียและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ โดยจะคัดสรรเฉพาะร้านค้าและกิจกรรมที่น่าสนใจภายใต้หลักเกณ์ คือ 1) เป็นสินค้าที่ตรงกับความต้องการของคนในชุมชน 2) เป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ หรือมีประโยชน์ต่อสังคม โดยงานภายใต้แคมเปญนี้ที่จัดไปแล้ว คือ Walk-in Closet และที่จะจัดขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่ งาน MG Car Show, งาน Singha Complex in The Alley และ งาน Trick or Treat Fest
โดยน.ส. พรพิชชา และ น.ส.ชลิดา อัคคไพบูลย์ นิสิตจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเจ้าของร้านที่มาร่วมในงาน Walk-in Closet เปิดเผยว่า แคมเปญที่สิงห์ เอสเตท จัดขึ้น มีแนวคิดที่ดีและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ในการมาจัดกิจกรรมและออกร้าน ถือเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจของตนเอง ให้ก้าวต่อไปได้หลังวิกฤติโควิดเริ่มคลี่คลาย นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานที่ทำงานในอาคารนี้ และคนที่อยู่ในชุมชนโดยรอบได้มีโอกาสซื้อสินค้าที่ได้คัดสรรมาแล้วว่าน่าสนใจ
“สิงห์ เอสเตท เดินหน้ากลยุทธ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพและสร้างคุณค่าให้กับชีวิต ด้วยการผลักดันสิงห์ คอมเพล็กซ์ ให้เป็นศูนย์กลางในการสร้างชุมชนที่ยั่งยืนในย่านอโศก ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพสำหรับทุกฝ่ายแล้ว ยังช่วยสนับสนุนผู้เช่าและชุมชนโดยรอบให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ถือเป็นการสร้างสังคมของการอยู่ร่วมกันแบบเกื้อกูลตามกลยุทธ์ Agile Unite Development ที่เราได้วางแนวทางไว้” นางอรณีย์ กล่าวทิ้งท้าย