LPN Wisdom เปิดผลสำรวจผู้ประกอบการอสังหาฯ เปิดตัวโครงการใหม่เดือนสิงหาคม 2563 จำนวน 10,215 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 37,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% เมื่อเทียบกับเดือนกรกรกฎาคม 2563 ขณะที่ยอดขายเฉลี่ย (Absorption Rate) อยู่ที่ 23% “ทาวน์เฮ้าส์” ราคา 2-5 ล้าน ฮอตเปิด 3,138 หน่วย จากยอแนวราบทั้งหมด 5,594 หน่วย ขณะที่คอนโดมิเนียมยังเปิด 4,621 หน่วย
“บ้านที่พักอาศัยแนวราบยังเป็นที่อยู่อาศัยที่มีการเปิดตัวสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้ง ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 5,594 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 54% ของจำนวนโครงการที่เปิดตัวทั้งหมดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่เหลืออีก 4,621 หน่วยเป็นคอนโดมิเนียม คิดเป็นสัดส่วน 46% ของจำนวนโครงการที่เปิดตัวไป ขณะที่อัตราการขายโครงการเปิดตัวใหม่เฉลี่ยในเดือนสิงหาคม (Absorption Rate) อยู่ที่ 23%” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บ้านพักอาศัยแนวราบที่มีการเปิดตัวสูงสุดยังคงเป็นทาวน์เฮ้าส์ที่มีการเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 3,138 หน่วย และเป็นกลุ่มที่มียอดขายสูงสุดโดยเฉพาะที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท โดยมียอดขายเฉลี่ยเปิดตัวใหม่ที่ 18% ขณะที่คอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมมียอดขายเฉลี่ยเปิดตัวใหม่อยู่ที่ 30% เป็นคอนโดมิเนียมระดับราคาเฉลี่ย 2-3 ล้านบาทต่อหน่วย
อย่างไรก็ดี การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้จำนวนที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่สะสม 8 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-สิงหาคม 2563) อยู่ที่ 43,956 หน่วย มูลค่า 177,664 ล้านบาท ลดลง 34% ทั้งจำนวนและมูลค่าเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีกว่าช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ที่มีจำนวนการเปิดตัวและมูลค่าลดลง 43% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2562 ขณะที่ยอดขายเฉลี่ยเปิดตัวในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 18% ลดลงจาก 29% ในช่วงเดียวกันของปี 2562
ในขณะที่ทำเลที่มีการเปิดตัวโครงการทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียมในเดือนสิงหาคม ยังคงอยู่ในพื้นที่ที่การคมนาคมสะดวกและใกล้กับพื้นที่ชุมชน โดยแนวราบส่วนใหญ่การเปิดตัวโครงการใหม่จะอยู่ในพื้นที่โดยรอบวงแหวนรอบนอก อาทิ เทพารักษ์, บางพลี, บางนา, รัตนาธิเบศร์, บางบัวทอง ในขณะที่คอนโดมิเนียมอยู่ในแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (เตาปูน-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีส้ม (บางกะปิ-มีนบุรี-สุวินทวงศ์)
“ผู้ประกอบการเริ่มทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้นหลังจากที่ชะลอการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งแรกของปี เป็นผลมาจากสินค้าคงเหลือที่ลดลงผลจากการเร่งลดสต๊อกสินค้าด้วยแคมเปญทางการตลาดเพื่อลดภาระการถือครองสินค้าคงเหลือและเก็บเงินสด เพราะความไม่แน่ใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีความจำเป็นที่ต้องทยอยเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาสสามและสี่ เพื่อจะลดความเสี่ยงจากปริมาณสินค้าคงเหลือที่ลดลง พร้อมกับรักษาการจ้างงานกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ และเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและอสังหาฯในอนาคต”นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว