‘พาร์ค สีลม’ รุกตลาดสำนักงานระดับพรีเมียม มอบประสบการณ์เหนือระดับปั้นคอมมูนิตี้มิกซ์ยูสแห่งอนาคตตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ ‘ชอปปิ้ง-ทำงาน-พักผ่อน’ ใจกลางสีลม พร้อมเปิด ‘The Great Room’ โคเวิร์กกิ้ง สเปซ (Co-Working space) สร้างบรรยากาศการทำงานมิติใหม่ในสิงหาคมนี้ ชี้ผลตอบรับดีเกินคาด ยอดผู้เช่า 60% ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้
นายสุธี ลิมปนชัยพรกุล ประธานอำนวยการ บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด ผู้บริหารโครงการพาร์ค สีลม เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสำนักงานเกรด A ถึง A+ เป็นที่ต้องการจากผู้เช่าในตลาดเป็นอย่างมาก โดยมีปัจจัยจากการขยายตัวของธุรกิจ และเทรนด์การบริหารจัดการองค์กรวิถีใหม่ที่เน้นสนับสนุนบรรยากาศในที่ทำงานให้มากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน และคุณภาพที่ดีของพนักงาน
นอกจากนี้ ผู้เช่าอาคารสำนักงานในยุคนี้ยังมองหาพื้นที่สำนักงานในทำเลที่เดินทางสะดวกสบาย เข้าถึงถนนสายหลักได้หลายสาย รวมไปถึงการออกแบบอาคารที่ทันสมัย ตอบโจทย์การใช้งานของผู้เช่า พร้อมกันนี้ยังต้องมีความยืดหยุ่นสูง และบริการครบวงจร รวมทั้งเป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบที่ดีตามมาตรฐานในระดับสากล (LEED&WELL) และ เทคโนโลยีที่สมัยใหม่ช่วยให้การใช้ชีวิตของผู้ใช้อาคารง่ายและปลอดภัยมากขึ้น เช่น ระบบจอดรถแบบ Flexible, ระบบ Touchless Technology หรือระบบ Face เพื่อความปลอดภัยในการเข้าใช้อาคาร ไปจนถึงอัตราค่าเช่า โดยเฉพาะค่าเช่าในทำเลซีบีดี กลุ่มอาคารสำนักงานที่ดีที่สุดจะมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 1,000-1,400 บาท/ตร.ม. ข้อมูลตลาดอาคารสำนักงาน อ้างอิงจาก บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด ระบุว่า จำนวนพื้นที่สำนักงานปล่อยเช่าในไตรมาส 1 ปี 2566 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 86,000 ตร.ม. จากปี 2565 เพิ่มขึ้น 4.2% โดยที่สำนักงานเกรด A เป็นกลุ่มที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น 1.3% และความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มมากขึ้น จาก 20,900 ตร.ม. ในไตรมาส 4 ปี 2565 เป็น 39,500 ตร.ม. ในไตรมาส 1 ปี 2566
“จากภาพรวมในกลุ่มของออฟฟิศเกรด A+ ยังมีซัพพลายที่ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับความต้องการใช้พื้นที่ขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ ซึ่ง พาร์ค สีลม ได้วางเป้าหมายในตลาดส่วนนี้ไว้ โดยมองว่ายังเป็นเซกเมนต์ที่มีความต้องการสูง และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากศักยภาพของโครงการมิกซ์-ยูส อาคารสำนักงานและพื้นที่ร้านค้าปลีกเกรดพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มวัยทำงาน ครอบครัว และนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ” นายสุธี กล่าว
โครงการพาร์ค สีลม เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 ปัจจุบันมีองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่เข้าใช้พื้นที่ในส่วนอาคารสำนักงานแล้ว 60% โดยเป็นกลุ่มธุรกิจฟาร์มาซูติคอล, กลุ่มธุรกิจไฟแนนซ์, กลุ่มธุรกิจไอที, กลุ่มธุรกิจโซเชียลมีเดีย และกลุ่มคอนซูเมอร์ โปรดักส์ ได้แก่ บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทพลังงานที่ยั่งยืน ดำเนินธุรกิจด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า และการควบคุมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีพลังงานสะอาด นอกจากนี้มี บริษัท โซเอทิส (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์ ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกที่ดูแลผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง และ บริษัท หลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ธุรกิจด้านวาณิชธนกิจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึง ส่วนของร้านค้าปลีกอีกกว่า 80 ร้านค้า
โดยในกันยายนนี้ พาร์ค สีลม เตรียมเปิดตัว เดอะ เกรท รูม (The Great Room at Park Silom) โคเวิร์กกิ้ง สเปซ (Co-Working space) ระดับพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากด้านการออกแบบที่สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานจากประเทศสิงคโปร์ และเป็นโคเวิร์กกิ้ง สเปซแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่มีการให้บริการพื้นที่สวนลอยฟ้า โดยจะเปิดให้บริการที่ชั้น 29 และ 30 บนพื้นที่รวมกว่า 3,500 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่ออฟฟิศส่วนตัว 59 ห้อง โต๊ะทำงาน และพื้นที่ห้องทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของแต่ละองค์กร
สำหรับโครงการพาร์ค สีลม ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ใจกลางถนนสีลม โดยเป็นอาคารสำนักงาน สูง 39 ชั้น ออกแบบฟังก์ชันภายในอาคารให้มีลักษณะของสมาร์ท บิ้วดิ้ง (Smart Building) ตามมาตรฐาน LEED และ WELL ระดับ Gold จากองค์กร USGBC ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้เป็นอาคารมิกซ์ยูสที่ออกแบบและก่อสร้างโดยคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และสุขภาวะผู้ใช้อาคาร ทั้งยังสะดวกสบายในการเดินทางที่เชื่อมตรงถึงรถไฟฟ้า 2 สาย ในส่วนของสถานีอินเตอร์เชนจ์ ระหว่าง BTS สายสีลม สถานีศาลาแดง กับ MRT สถานีสีลม
ในส่วนของการใช้พื้นที่อาคาร แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนอาคารสำนักงาน และโคเวิร์กกิ้ง สเปซ (Co-Working space) รวมพื้นที่ให้เช่ากว่า 56,000 ตารางเมตร หรือ กว่า 2,000 ตารางเมตรต่อชั้น ส่วนพื้นที่ชั้นล่าง 5 ชั้น เป็นส่วนของคอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่กว่า 9,000 ตร.ม. สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร และแบรนด์ชั้นนำมากมาย นอกจากนี้ ด้านหน้าอาคาร ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ เพื่อสร้างความสดชื่นและเป็นปอดขนาดใหญ่ให้กับชาวสีลมได้มาพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมด้วย The Sky Garden ที่ชั้น 29 ของอาคารที่จัดไว้เป็นมุมพักผ่อนของชาวออฟฟิศ และในปีนี้ “พาร์ค สีลม” จะกลายเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่จะทำให้สีลมกลายเป็นย่านธุรกิจแห่งอนาคต