รัฐบาลยอมจ่าย 4 พันล้านค่าโง่ทางด่วนขั้น2

รัฐบาลยอมจ่าย 4 พันล้านค่าโง่ทางด่วนขั้น2
บริษัทลูกช.การช่างฟ้องกทพ.สร้างทางแข่งขัน

รัฐบาลยอมจ่ายค่าโง่ ช.การช่าง กรณีข้อพิพาททางด่วน 2 พร้อมสั่งกทพ.หาแนวทางจ่ายเงิน 4 พันล้าน ด้านสร.กทพ. ค้านเจรจาแลกสัมปทาน

นายชาญชัย โพธิ์ทองคำ ประธานสหภาพแรงงานพนักงานรัฐวิสาหกิจ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(สร.กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีข้อพิพาท ระหว่างเอกชนผู้รับสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ในนามบริษัททางด่วนเหนือ จำกัด หรือ NECL บริษัทในเครืองกลุ่มช.การช่าง ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกรณีรัฐบาลโดยกรมทางหลวง กระทรงคมนาคม สร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ สร้างส่วนต่อขยาย ซึ่งเข้าข่ายเป็นการแข่งขันเส้นทางกับทาง NECL ที่ระบุไว้ในสัญญาสัมปทาน กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จนนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด กลายเป็น คดีค่าโง่ทางด่วน 2 ว่า

“ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 2 ตค. ที่ผ่านมา รับทราบตามที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือกทพ.เสนอผลการตัดสินคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ให้กทพ.จ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัท ทางด่วนเหนือ จำกัด หรือ NECL เป็นกว่า 4,000 ล้านบาท โดยให้ กทพ. กลับไปทำรายละเอียดแนวทางการจ่ายเงินค่าเสียหายให้กับเอกชนคู่กรณีตามคำตัดสินขแงศาลปกครองสูงสุด

ทั้งนี้ ทางสร.กทพ. เตรียมยื่นหนังสือถึงผู้บริหาร กทพ.เพื่อขอทราบแนวทางการดำเนิน และวิธีการจ่ายเงินให้กับเอกชน จะเป็นแนวทางเช่นไร ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า กทพ. จะขอหักจากรายได้จากการบริการค่าผ่านทางที่จะต้องส่งให้กระทรวงการคลังทุกปี มาชำระให้กับเอกชน

นอกจากนี้ ยังแนวทางการเจรจากับเอกชนเพื่อแลกการขยายอายุสัมปทานทางด่วน ขั้นที่ 2 ซึ่งทาง สร.กทพ.ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดีนายชาญชัย ยังกล่าวต่อว่า การฟ้องร้องคดีนี้ ไม่ควรมีตั้งแต่แรก เพราะ กทพ. ไม่ได้เป็นคนก่อสร้างทางแข่งขัน จนทำให้บริษัทได้รับความเสียหายตามกล่าวอ้าง เพราะ กทพ.เป็นเพียงคู่สัญญาสัมปทานโครงการทางด่วนเท่านั้น

“หากพิจารณาตามข้อเท็จจริงบริษัทNECL ควรจะฟ้องร้อง กรมทางหลวง และบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด เจ้าของโครงการทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ส่วนต่อขยายมากกว่า ทั้งหมดถือเป็นนโยบายของรัฐ เมื่อเกิดความเสียหายกลับให้กทพ. รับผิดชอบฝ่ายเดียวคงไม่ถูกต้อง รัฐควรจะร่วมรับผิดชอบด้วยเช่นกัน

ส่วนทางด้านนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) คนใหม่ที่เพิ่วรับตำแหน่ง กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี รับทราบ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จ่ายเงินชดเชยแก่บริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด เป็นเงิน 1,790 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินประมาณ 4,000 ล้านบาท กทพ.ต้องดำเนินการตามคำสั่งศาล

ทั้งนี้ มีหลายแนวทางที่จะพิจารณา เช่น ขอนำเงินส่งรัฐในแต่ละปีบางส่วน ชดเชยเอกชนตามคำสั่งศาล หรือการต่ออายุสัญญา หรือแนวทางอื่นๆ ซึ่งจะรอมติครม.เมื่อวันที่ 2 ต.ค. อย่างเป็นทางการก่อน และจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เสนอที่ประชุมบอร์ด กทพ.ที่มี นายสุรงค์ บูลกุล เป็นประธานในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ซึ่งบอร์ดอาจจะตั้งคณะอนุกรรมการ ฯขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้เพื่อหา แนวทางที่เหมาะสมที่สุด

อย่างไรก้ดีตามคำสั่งศาล ให้ดำเนินการจ่ายชดเชยให้เอกชนภายใน 90 วันนับจากมีคำสั่งศาล ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 19 ธ.ค. 2561

ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คมนาคม กล่าวว่า ครม.รับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดแล้วหลังจากนี้ กทพ.จะต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนและเหมาะสมที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาล หากได้แนวทางที่ชัดเจนแล้วจะต้องรายงานครม.ให้รับทราบต่อไปด้วย

propertychannelกทพข่าวอสังหาค่าโง้ทางด่วนเกาะติดชีวิตคนเมือง
Comments (0)
Add Comment