“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” และ “แกรนด์ แอสเสท” เดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำระดับโลกจับมือบริษัทอสังหาฯยักษ์ใหญ่จากฮ่องกงพัฒนาโครงการแนวราบ เผยทิศทางธุรกิจปี 2561 วางเป้าขายกลุ่มบริษัทไว้ 22,400 ล้าน เปิดโครงการใหม่มากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทรวม 25 โครงการ มูลค่า 35,823 ล้าน พร้อมเพิ่มพอร์ตโรงแรม ตั้งเป้ารายได้ทั้งกลุ่มบริษัท 30,000 ล้าน ภายใน 3 ปี
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนงานปีนี้จะเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มบริษัทด้วยความร่วมมือกับผู้ประกอบการชั้นนำระดับโลกในด้านต่างๆ โดย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีแผนร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากฮ่องกง พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ 2 โครงการ ซึ่งจะช่วยเสริมรายได้ในอนาคตปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท สำหรับแกรนด์ แอสเสทฯ ซึ่งได้ร่วมทุนกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี นอกจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ” แล้ว ยังมีแผนพัฒนาโครงการระดับไฮเอนด์ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาเนื้อที่ 8ไร่ เป็นรูปแบบคอนโดมีเนียมไฮเอ็นด์ 70ชั้น บนถนนเจริญนคร มุลค่าดครงการกว่า 8000 ล้านบาท
ในส่วนของธุรกิจโรงแรมซึ่งอยู่ภายใต้เชนแมริออทและไฮแอทจะใช้ความเป็นบริษัทบริหารจัดการด้านโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และฐานลูกค้ากว่า 100 ล้านคน มาช่วยสนับสนุนผลักดันในเรื่องรายได้ขณะเดียวกันปีนี้ คิโรโระ รีสอร์ท จะมีความร่วมมือกับบริษัทด้านสกีระดับโลกมาช่วยสนับสนุนเพิ่มจำนวนลูกค้าให้มากขึ้นทำให้สามารถต่อยอดธุรกิจทั้งในส่วนโรงแรมและที่พักอาศัย ซึ่งในส่วนของที่พักอาศัยมีแผนพัฒนาโครงการต่อเนื่องบนที่ดินเปล่า Freehold ประมาณ 300 ไร่ โดยนอกจากการลงทุนในโครงการ “ยู คิโรโระ” คอนโดมิเนียมมูลค่า 4,000 ล้านบาทที่เพิ่งเปิดตัวไปแล้วนั้น ยังมีแผนจะพัฒนาโครงการในรูปแบบวิลล่า มูลค่า 4,500 ล้านบาท ร่วมกับบริษัทชั้นนำในธุรกิจที่อยู่อาศัยของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
กลุ่มบริษัทยังมีแผนเพิ่มรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าภายใน 3 ปี คาดจะมีรายได้รวม 30,000 ล้านบาท โดยธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้มีแผนเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวม 35,823 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงแรม ปีนี้แกรนด์ แอสเสทฯ จะเปิดดำเนินการโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท รวมทั้งยังได้เข้าซื้อกิจการโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังจะเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร ทั้งการบริหารจัดการต้นทุนการเงินและควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหาร รวมถึงนำแลนด์แบงก์มาพัฒนาและขายมากขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไรขั้นต้น ประมาณการรายได้ของกลุ่มบริษัทปีนี้ ตั้งไว้ที่ 24,090 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 14,000 ล้านบาท รายได้ของ แกรนด์ แอสเสทฯ ในส่วนของคอนโดมิเนียม 2,200 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจโรงแรม 3,530 ล้านบาท รายได้จากการขายที่ดิน 4,000 ล้านบาท และ จากธุรกิจให้เช่าอีก 360 ล้านบาท โดยตั้งเป้าอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิ (Net IBD/E) ให้อยู่ระดับ 1.2 เท่า
สำหรับแผนงานในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปีนี้กลุ่มบริษัทตั้งเป้าขาย 20,900 ล้านบาท ประกอบด้วย เป้าขายของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 19,400 ล้านบาท จากโครงการแนวราบ 11,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 7,000 ล้านบาท คอนโดและวิลล่าประเทศญี่ปุ่น 1,400 ล้านบาท สำหรับ แกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งเป้าขายโครงการคอนโดมิเนียม 1,500 ล้านบาท ปีนี้ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มีแผนเปิดโครงการใหม่ 23 โครงการ มูลค่า 27,523 ล้านบาท เป็นแนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 23,243 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่า 4,280 ล้านบาท ขณะที่แกรนด์ แอสเสทฯ มีแผนเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท และ วิลล่า 1 โครงการ มูลค่า 2,300 ล้านบาท บริษัทยังจะมียอดขายจากตลาดต่างประเทศ โดยวางเป้าไว้ที่ 2,400 ล้านบาท จากคอนโดมิเนียมทำเลใกล้รถไฟฟ้า 6 โครงการ และยังมีแผนเปิดโครงการคอนโดประชารัฐ ราคาห้องละ 880,000 บาท ในเขตกรุงเทพฯ อีกด้วย
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ บริษัทมีแผนยกระดับคุณภาพสินค้าภายใต้แนวคิด “เพอร์เฟค สมาร์ท ซิตี้” ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการให้มีความน่าอยู่ จากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ โดยร่วมมือกับ เอไอเอส ในการนำ IoT (Internet of Things) มาใช้ในโครงการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย ทั้งด้านความสะดวกสบาย ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน อาทิเช่น เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบควบคุมการใช้ไฟฟ้าในบ้าน ระบบติดตามตัว ระบบระบุตำแหน่งของรถรับส่งในโครงการ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะมีความร่วมมือกับ Mobike ผู้ริเริ่มบริการจักรยานสาธารณะอัจฉริยะรายแรกของโลก มาให้บริการในโครงการด้วย
ทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมนั้น ในปีนี้ประมาณการรายได้จากธุรกิจโรงแรม ภายในประเทศจะเพิ่มเป็น 2,100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 92% จากปี 2560 โดยมาจากการปรับเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (ADR) ของทั้ง 3 โรงแรมที่ดำเนินการอยู่ เน้นธุรกิจ MICE เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม จากการรับรู้รายได้จากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท ที่จะเปิดดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และจากการรับรู้รายได้จากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน สำหรับการเปิดโครงการใหม่ แกรนด์ แอสเสทฯ มีแผนลงทุนโครงการแบบมิกซ์ยูส เป็นรีสอร์ทผสมผสานกับคอนโดมิเนียมและพูลวิลล่า บริเวณหาดแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง จะขยายในส่วนของโรงแรมเพื่อรองรับ EEC ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมของกลุ่มบริษัท มีจำนวนห้องพักรวม 1,079 ห้อง เป็นห้องพักโรงแรมในประเทศ 657 ห้อง ต่างประเทศ 422 ห้อง และจะเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 999 ห้อง จากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท 273 ห้อง และจากโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน 726 ห้อง ซึ่งบริษัทได้เข้าซื้อกิจการมา