เลขาธิการอีอีซีระบุผลักดันการลงทุนพื้นที่ระยะ 10 ปีหวังชดเชยผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจไทย พร้อมฝากการเมืองหลังเลือกตั้งสานต่อโครงการให้เกิดความต่อเนื่อง
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อเศรษฐกิจไทยกับการลงทุนในอีอีซี ในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2561 จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยนายคณิศ กล่าวว่าจากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์และผู้นำภาคธุรกิจ (CEO) ทั่วโลก วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะทดถอย ซึ่งบางกลุ่มเชื่อว่าจะเริ่มตั้งแต่ปลายปีนี้ หรือในปีค.ศ.2020 ดังนั้นการสร้างการลงทุนในประเทศโดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่เขตอีอีซี ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะมาชดเชยปัจจัยจากนอกประเทศที่จะมากระทบ เศรษฐกิจไทยในอนาคต ซึ่งการลงทุนในพื้นที่อีอีซีนั้น มีการประเมินว่าในระยะเวลา 5 ปีจะมีเงินลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 1.7 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 300,000 ล้านบาทต่อปีซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะมาช่วยชดเชยการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจากฐานเฉลี่ย 3% หรือช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เฉลี่ยต่อปีร้อยละ 5-6
นายคณิศ ยืนยันว่า การกำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะลงทุนในอีอีซีใน 12 กลุ่มอุตสาหกรรม ขณะนี้ประเทศผู้ลงทุนสำคัญทั้งจีนและญี่ปุ่นได้แสดงความสนใจเข้าลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยสรุปภาพรวมหลังจากนี้เชื่อว่าในพื้นที่อีอีซีจะมีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระยะ 5 ปีและหลังจากนั้นอีก 5 ปีธุรกิจที่มีการลงทุนไปแล้วก็จะมีการเติบโตช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี