“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”ควง “แกรนด์ แอสเสท”เปิดแผนปี 2564 คาดจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากโครงการร่วมทุน รวม 9,000ล้าน จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,000ล้าน และธุรกิจใหม่ผลิตและส่งออกถุงมือยาง 5,000ล้าน จี้ภาครัฐพิจารณาฉีดวัคซีนเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว ใช้เงินไม่เกิน 20,000ล้าน กับประชากรเมืองท่องเที่ยวหลัก และธุรกิจท่องเที่ยวบริการเป็นกลุ่มแรกๆ เพื่อเร่งฟื้นฟูรายได้จากการท่องเที่ยว
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ปีนี้ธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศจะกลับมาฟื้นตัวหลังจากปีที่ผ่านมาการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง สำหรับกลุ่มบริษัท ยอดขายและรายได้ในปีนี้จะกลับมาเติบโต โดยเฉพาะการดำเนินงานตามแผนสร้างการเติบโต โดยผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งต่างประเทศและในประเทศ ผสานจุดแข็งร่วมลงทุนต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ด้านสุขภาพหรือเฮลท์แคร์เพิ่มเติม
“ปีนี้ กลุ่มบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉพาะจากโครงการร่วมทุนรวม 9,000ล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อภายใต้การร่วมทุนกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี”จำนวน 2,000ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ “เลค เลเจ้นด์” ร่วมทุนกับ “ฮ่องกง แลนด์” ใน 2 ทำเล คือแจ้งวัฒนะ และ บางนา-สุวรรณภูมิ จำนวน 1,000ล้านบาท รวมทั้ง โครงการบ้านเดี่ยวอีก 1,000ล้านบาท จากการร่วมทุนทั้งกับ “เซกิซุย เคมิคอล”ใน 5 ทำเล และ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี”ซึ่งปีนี้จะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมด้วย โดยแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมทุนของกลุ่มบริษัทขณะนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น29,650ล้านบาท
นอกจากโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรต่างประเทศ กลุ่มบริษัทโดย บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)ยังได้ขยายไปยังธุรกิจการผลิตและส่งออกถุงมือยาง โดยร่วมลงทุนกับ บริษัท วัฒนชัย รับเบอร์เมท จำกัดซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายถุงมือยางที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกไปทั่วโลก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตถุงมือยาง ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเริ่มก่อสร้างไปเมื่อเดือนธันวาคม 2563ที่ผ่านมา กำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะดำเนินการผลิตได้ทันที คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจใหม่นี้อีก 5,000 ล้านบาท จากความต้องการใช้ถุงมือยางของโลกที่เพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมาก
“ธุรกิจและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็ว หากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19ได้เร็ว สิ่งที่อยากฝากให้ภาครัฐพิจารณาเพิ่มเติม คือ ควรลงทุน20,000 ล้านบาท ในการแจกจ่ายวัคซีนให้กับประชากรในเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ กรุงเทพปริมณฑล เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย ชลบุรี ระยอง และอื่นๆ รวมถึงกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการเป็นกลุ่มแรกๆ เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยต้องอาศัยรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวซึ่งถือเป็นรายได้หลัก โดยมีสัดส่วนถึง17% ของ GDP ในขณะที่ 11 เดือนแรกของปี2563 ที่ผ่านมา รายได้จากภาคท่องเที่ยวลดลง1.93ล้านล้านบาท หรือติดลบ 71.75% จากช่วงเดียวกันของปี 2562นอกจากนี้ การท่องเที่ยวยังมีบทบาทสำคัญต่อการจ้างงาน ซึ่งการจ้างงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการมีอยู่ถึง 4,393,294 คน หรือ11.16% ของการจ้างงานทั้งหมด ทั้งนี้ เศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวเร็ว หากธุรกิจการท่องเที่ยวฟื้นตัว และภาพรวมของธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็จะดีไปด้วย”