SAM ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรจาก TRIS ที่ระดับ “AA+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่”

SAM ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ AA+ นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา อันเป็นการสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะของ SAM ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญกับภาครัฐในระดับ “สำคัญมาก” ในการเป็นกลไกส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของประชาชนและภาคธุรกิจ

 

 

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS)    ได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ SAM ที่ระดับ AA+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” โดย SAM ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ AA+ นับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา  อันเป็นการสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะของ SAM ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสำคัญกับภาครัฐในระดับ “สำคัญมาก” และมีความสัมพันธ์กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฯ) ในระดับ “สูงสุด” โดยกองทุนฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นภายใต้พระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งความสัมพันธ์และบทบาทที่แข็งแกร่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่ SAM น่าจะได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากกองทุนฯ ในระยะยาว

ทั้งนี้ เนื่องจากทางกองทุนฯ ถือหุ้น SAM ทั้งหมดและมีบทบาทในการควบคุมดูแลระดับนโยบาย ทริสเรทติ้งได้ประเมินความสัมพันธ์ของ SAM กับกองทุนฯ อยู่ในระดับ “สูงสุด” โดยกลยุทธ์การดำเนินงาน ธุรกิจ และการเงินของ SAM อยู่ภายใต้การชี้แนะและการกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้แทนของกองทุนฯ ในคณะกรรมการของ SAM

ทริสเรทติ้งประเมินความสำคัญของ SAM กับภาครัฐในระดับ “สำคัญมาก” จากบทบาทของ SAM ในการเป็นส่วนหนึ่งของกลไกภาครัฐที่ช่วยสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ทุกระดับ ทั้งธุรกิจรายใหญ่ Corporate, ธุรกิจ SME Housing loan และประชาชนรายย่อย ในฐานะบริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งชาติแห่งเดียว ความสำคัญของ SAM จะเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤติการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปัจจุบันสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบสูงถึง 5.11แสนล้านบาท ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ SAM ในการบริหารจัดการหนี้เสียผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว

นอกจากนี้ SAM ยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางในโครงการ “คลินิกแก้หนี้” โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่มีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลายแห่ง ผ่านการรวมหนี้ทั้งหมดเป็นสินเชื่อระยะยาวเพียงก้อนเดียว ด้วยดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำลงกว่าเดิม ซึ่งโครงการดังกล่าวยังได้รับการปรับปรุงหลายครั้ง  เพื่อขยายขอบเขตครอบคลุมลูกหนี้รายอื่น ๆ ให้มากขึ้น และช่วยบรรเทาภาระหนี้ของผู้กู้ได้ในวงกว้าง

ทั้งนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ Stable” หรือ “คงที่” อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2563 ยังสะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่า SAM จะยังคงสถานะในการเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐและจะรักษาความสัมพันธ์ระดับ “สูงสุด” เอาไว้ได้และมีบทบาทในระดับ “สำคัญมาก” ในการเป็นกลไกส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนของประชาชนและภาคธุรกิจ

นอกเหนือจากภารกิจหลักของ SAM ในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และดำเนินโครงการคลินิกแก้หนี้แล้ว SAM ยังจำหน่ายทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA เพื่อช่วยให้คนไทยมีอสังหาริมทรัพย์มือสอง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย หรือลงทุนในทำเลดีทั่วประเทศ จากข้อมูลล่าสุด 31 ตุลาคม 2567 พบว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน 25 ปี SAM สามารถช่วยลูกค้าปรับโครงหนี้ NPL และส่งกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจไปแล้ว มากกว่า 54,906 ราย คิดเป็นภาระหนี้ รวมทั้งสิ้นมากกว่า 338,530 ล้านบาท และส่งคืนทรัพย์สิน NPA กลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจไปแล้ว คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นมากกว่า 59,214 ล้านบาท ส่วนโครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM (นับตั้งแต่กลางปี 2560-ปัจจุบัน) สามารถช่วยลูกค้าได้มากกว่า 78,088 ราย หรือ 219,381 บัญชี  คิดเป็นภาระหนี้เงินต้นตามสัญญา รวมทั้งสิ้นมากกว่า 16,064 ล้านบาท

samบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด
Comments (0)
Add Comment