กทพ. ขานรับนโยบาย รวค. เดินหน้าศึกษา พัฒนาระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-flow) เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร จับมือ 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับข้อมูลทะเบียนยานพาหนะระหว่าง กรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อศึกษาและพัฒนาระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติ แบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ร่วมกันระหว่างกรมทางหลวง การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางบก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน)
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กทพ. ได้พัฒนาปรับปรุงการให้บริการทางพิเศษเพื่อให้ผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก รวดเร็วในการเดินทางมาโดยตลอด มีการนำระบบเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติด้วยบัตร Easy Pass มาใช้ตั้งแต่ปี 2553 เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านฯ ซึ่งสามารถระบายการจราจรหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษได้ในระดับหนึ่ง ต่อมา กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายและสั่งการให้ กทพ. และ ทล. ไปดำเนินการศึกษา ทดลองนำระบบการให้บริการทางพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น Multi-Lane Free Flow หรือ M-Flow มาใช้งาน
เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรบริเวณหน้าด่านฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยที่ผู้ใช้ทางพิเศษสามารถผ่านช่องทางไปได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ซึ่ง กทพ. มีแผนจะนำระบบกล้องอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติที่เชื่อมต่อข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก มาใช้ร่วมกับระบบชำระเงินด้วยวิธีการ ทางอิเล็กทรอนิกส์ และบูรณาการทำงานในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) จนเป็นที่มาของการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 หน่วยงานในครั้งนี้
“ในเบื้องต้น กทพ. จะนำร่องใช้งานระบบ M-Flow ในโครงการทางพิเศษฉลองรัชและด่านฯ ที่เป็นจุดรองรับการจราจรที่ทิศทางขาเข้าเมือง ที่มีปริมาณจราจรหนาแน่น อาทิ ด่านฯ บางนา กม.6 ขาเข้า ด่านฯ ดาวคะนอง รวมถึงนำไปใช้กับทางพิเศษที่ กทพ. กำลังดำเนินการก่อสร้าง คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3–ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก และโครงการทางพิเศษฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี อีกด้วย ทั้งนี้การร่วมมือกันตามบันทึกข้อตกลงที่จะเชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนรถ ระหว่าง กทพ. กับ กรมการขนส่งทางบก จะช่วยให้ กทพ. สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ชำระค่าผ่านทาง ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ เพื่อสามารถติดตามเรียกเก็บค่าผ่านทางและดำเนินการตามกฎหมายได้” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด