โปรเจ็กต์มิกซ์ยูสหมื่นล้าน “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด”

ถนนราชดำริ  นับเป็นอีกหนึ่งย่านธุรกิจใจกลางเมือง ที่ถือเป็นทำเลทองอันดับต้นๆ ของมหานครกรุงเทพฯ 

โดยโครงการที่น่าสนใจ  ที่ Propertychannel  จะมาแนะนำให้ได้รู้จักกันกัน เป็นโครงการที่ตั้งอยุ่บนถนนราชดำริ  ห่างเพียงไม่กี่ก้าว  จากสี่แยกราชประสงค์  กับโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด (MRB) โครงการแบบมิกซ์ยูสระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท 

ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดผืนสุดท้ายบนถนนราชดำริ ภายใต้การพัฒนาโดย บริษัท แมกโนเลีย ไฟน์เนสท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

สำหรับโครงการมีขนาดอาคารสูง 60 ชั้น บนพื้นที่ 6 ไร่ ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนเรสซิเดนท์ จำนวน 316 ยูนิต ในพื้นที่ชั้น 17 – 54  แบ่งเป็นขนาด 1 ห้องนอน  มีพื้นที่ตั้งแต่ 48 – 60 ตารางเมตร จำนวน 88 ยูนิต  ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่  72 – 106 ตารางเมตร จำนวน 220 ยูนิต  และห้องดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์  ขนาดพื้นที่ 250- 360 ตารางเมตร  จำนวน 6 ยูนิต และเพนท์เฮ้าส์ ขนาดพื้นที่ 290 – 300 ตารางเมตร  จำนวน 2 ยูนิต

ภายนอกโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบชั้นสุดยอด ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก “กลีบดอกแมกโนเลีย” ที่ดูสวยงาม อ่อนหวาน หากแต่แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็ง หากมองจากมุมสูงลงมา จะเห็นถึงเส้นสายลายโค้งอันอ่อนช้อย ที่วนล้อมไล่เรียงตั้งแต่ปลายด้านบนจรดถึงฐานด้านล่าง เสมือนดอกไม้ที่กำลังค่อยๆ เบ่งบาน

เพิ่มความยากและมากคุณค่ากับเทคโนโลยีการขั้นสูงสุดในการก่อสร้าง กับรูปทรงโค้งมนของตัวตึก พร้อมตกแต่งส่วนชายคา (Sunshade)  ที่นอกจากจะช่วยป้องกันความร้อน ยังเป็น Façade (ฟาซาด) ประดับตัวอาคาร หากมองไกลๆ จะเหมือนกระจกที่ถูกวางเรียงและจับบิดเป็นเกลียวโอบล้อมตัวตึกอยู่เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องก็จะเห็นแสงเงาระยิบระยับพาดผ่าน  อีกทั้งยังเป็นอาคารประหยัดพลังงาน โดยนำแนวคิดสถาปัตยกรรมของไทยมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองร้อน ด้วยการนำทิศทางของแสงแดดมาคำนวณในการออกแบบส่วนชายคาหรือ Sunshade ของตัวอาคารอย่างแม่นยำ

ส่วนภายในได้รับการออกแบบและตกแต่งอย่างพิถีพิถันในแบบโมเดิร์นคลาสสิก เรียบหรู สง่างาม  ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจการตกแต่งสไตล์  English Town Home เน้นโทนสีเบจและขาวเทา ให้รู้สึกนุ่มเบาและสบายตา ไม่ฉูดฉาด เพิ่มความหรูหราด้วยโคมไฟตั้งพื้นคริสตัล เหมาะกับหญิงสาวที่มีบุคลิกหวานซ่อนเปรี้ยว และมีความเป็นตัวของตัวเอง ในขณะที่สไตล์ Elegance Modern จะเล่นโทนสีอ่อนและเข้มสลับกันไป ให้ความรู้สึก เท่ ทันสมัย และลึกลับ สไตล์ของงานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ใช้จะเป็นรูปแบบเรียบๆ แต่มีลูกเล่นดีเทลแฝงอยู่ของวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นงานแสตนเลสหรือกระจก

พร้อมติดตั้งชุดครัว Bulthaup แบรนด์ชุดครัวหรูที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศเยอรมนี รวมถึงอ่างล้างจาน FRANKE และชุดครัวคุณภาพสูงจาก Siemens ส่วนของห้องน้ำเลือกใช้เครื่องสุขภัณฑ์ชั้นนำ อาทิ ก๊อกน้ำจากแบรนด์ Dornbracht ซึ่งเป็นท็อปแบรนด์ซึ่งใช้ในโรงแรมระดับไฮเอนด์ชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งสุขภัณฑ์ตัวท็อป HANSGROHE ซึ่งออกแบบพิเศษสำหรับโครงการ เช่น อ่างอาบน้ำ KASCH ฯลฯ

ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด เลาจน์ คลับ ระดับเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับผู้พักอาศัย (Private Residents Club), จุดรับ-ส่งสำหรับบริการจอดรถ (Valet Parking) ห้องสมุดพร้อมวิวสวนแนวโค้ง, ฟิตเนส, ลู่วิ่งออกกำลังกายริมสวนแนวลาด, สระว่ายน้ำ สระเด็ก และส่วนจากุชชี่, ห้องอบไอน้ำและเซาว์น่า พร้อมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

           

           

นอกจากพื้นที่พักอาศัย  โครงการยังมีส่วนโรงแรม  ภายใต้แบรนด์ชั้นนำในเครือฮิลตัน  โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ (Waldorf Astoria Bangkok) ที่มีเอกลักษณ์การบริการแบบ “ทรูวอลดอร์ฟเซอร์วิส” (True Waldorf Service) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านสี่แยกราชประสงค์ บนถนนราชดำริ ด้วยแรงบันดาลใจจากงานศิลปะร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์ของโรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย นิวยอร์ค ที่รายล้อมอยู่ท่ามกลางความหรูหราของคนในสังคมชั้นสูงมาหลายสมัย แบรนด์ วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย จึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอการบริการที่ดีที่สุด เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในบรรยากาศที่หรูหราและงดงาม

           

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของโครงการแมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด โรงแรมหรูแห่งใหม่นี้ได้รับการตกแต่งภายในโดยนายอังเดร ฟู (André Fu) นักออกแบบและตกแต่งภายในที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากฮ่องกง และ อาฟโรโค่ (AvroKO) บริษัทออกแบบชั้นนำจากนิวยอร์ค ด้วยห้องพักและห้องสวีทเพียง 171 ห้อง ทุกห้องถูกออกแบบให้มีพื้นที่โอ่โถงและกว้างขวางด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และเตียงนอนที่หรูหราสะดวกสบาย ห้องแต่งตัวและตู้เสื้อผ้าถูกจัดวางอย่างลงตัว พร้อมผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำจากแบรนด์ดัง ซัลวาทอเร่ เฟอร์รากาโม (Salvatore Ferragamo) ที่คัดสรรมาสำหรับแขกที่มาพักแบรนด์วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย เท่านั้น

สำหรับการบริการอาหารและเครื่องดื่ม โรงแรมได้นำเสนอ ห้องอาหารบูลแอนด์แบร์ (Bull & Bear) ที่อยู่บนชั้น 55  เป็นห้องหาอารที่มีชื่อเสียงมาจากโรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย นิวยอร์ค ซึ่งให้บริการสเต็กคุณภาพเยี่ยมจากทั่วโลก หรือจะเติมเต็มด้วยเครื่องดื่มสุดพิเศษโดยบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ และเคลิบเคลิ้มไปกับดนตรีทันสมัยจากดีเจที่ เดอะ ลอฟท์ (The Loft) ชั้น 56 และ เดอะ แชมเปญบาร์ (The Champagne Bar) บนชั้น 57 สถานที่ที่คุณจะประทับใจกับทัศนียภาพของกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนอย่างไม่มีวันลืม พีค๊อก อัลลี่ย์ (Peacock Alley) เสิร์ฟอาหารว่างและจิบน้ำชายามบ่ายตามแบบฉบับวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย นิวยอร์ค หรือจะเลือก อิ่มเอมกับอาหารนานาชาติที่ให้บริการตั้งแต่มื้อเช้าถึงมื้อเย็นที่ เดอะ บราซเซอร์รี (The Brasserie) ปิดท้ายด้วย ฟร้อนรูม (Front Room) ซึ่งนำเสนออาหารนอร์ดิค-ไทย (new Nordic-Thai) ในรูปแบบใหม่

นอกจากนี้  โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ได้เตรียมห้องการประชุมและจัดเลี้ยงหลากหลายขนาดทั้งหมด 10 ห้อง พร้อมรองรับการจัดงานทุกรูปแบบ จุดเด่นคือห้องแมคโนเลียบอลรูม (Magnolia Ballroom) ที่ถูกเนรมิตอย่างสวยงามและมีเอกลักษณ์ เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย

ภายในโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะอวกอื่นๆ ไม่ว่าจะสระว่ายน้ำ สปา และฟิตเนส ที่พร้อมจะมอบความเพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับความเขียวขจีของต้นไม้จากสนามราชกรีฑาสโมสรฯ และสีสันของแยกราชประสงค์ นอกเหนือจากนั้น โรงแรมยังมีบริการผู้ช่วยพิเศษ (Personal Concierge Service) และบริการรถลีมูซีน

 

Comments (0)
Add Comment