AWC ควักพันล้าน เปลี่ยน เอ็มไพร์ ให้กลายเป็นอีกที่ที่ต้องมา

 “EA” Rooftop at The Empire (เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์) จุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ รวม 6 ชั้นกับรูฟ ทอปของ “เอ็มไพร์” ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตร.ม. วิวเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพและคุ้งน้ำเจ้าพระยาอันงดงามทั้งกลางวันและกลางคืนแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Celebrating The World’s Newest Horizon” 

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวย้ำถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า “AWC รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ผ่านโครงการพิเศษระดับโลกที่ ‘EA’ รวมหลากหลายประสบการณ์การเป็นเดสติเนชั่นด้านอาหารและเครื่องดื่มบนรูฟทอป (F&B Rooftop Destination) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

พร้อมสร้าง “เอ็มไพร์” ให้เป็นทั้งอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปพร้อมกับการเป็นจุดหมายปลายทางรีเทลไลฟ์สไตล์ระดับโลก ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรจากแบรนด์คาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารมากมาย เพื่อนำประสบการณ์อาหารที่ได้รับความนิยมที่สุดของโลก อาทิ อาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และอิตาเลียน ที่สร้างสรรค์โดยเชฟระดับเวิร์ลคลาสมาไว้ในที่เดียว  ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ‘EA’ จะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนกรุงเทพฯ พร้อมเติมเต็มแนวคิด Co-Living Collective: Empower Future ของอาคาร “เอ็มไพร์” และร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปด้านอาหาร เครื่องดื่ม และการท่องเที่ยวในระดับสากลอย่างยั่งยืน”

“EA Gallery” จุดหมายด้านไลฟ์สไตล์พร้อมด้วยวิวสุดพิเศษ

“EA Gallery” ตั้งอยู่บนชั้น 55 ของ “เอ็มไพร์” เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย นำเสนอความหลากหลายของอาหาร เครื่องดื่ม และความบันเทิงจากร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ที่มีวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ  ประกอบไปด้วย ร้าน %ΔRΔBICΔ สาขาที่สูงที่สุดในโลก ร้านกาแฟชื่อดังที่ได้รับการยอมรับจากคุณภาพของกาแฟและเครื่องดื่มคุณภาพชั้นยอด 手qraft (คราฟท์) ร้านคาเฟ่และเบเกอรี่จากญี่ปุ่น นำเสนอเมนูบรันช์และเบเกอรี่สไตล์ตะวันออกกับเมนูขนมอบและอาหารระดับกูร์เม่ต์หลากหลายชนิด และ Onggi ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งแบบเกาหลี พร้อมมอบประสบการณ์ของการรับประทานอาหารเกาหลีชั้นเลิศแบบฉบับต้นตำรับแท้ๆ รวมถึง Invitation Only บาร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งสุดชิคในโทนสีแดง พร้อมเชิญชวนแขกให้มาสัมผัสกับแนวคิดบาร์สปีคอีซี่ที่ไม่เหมือนใคร

ห้องอาหาร “Le Du Kaan” (ร้านฤดูกาล) โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์อย่าง เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ตั้งอยู่ ณ  “EA CHEF’S TABLE“ ชั้น 56 โดยถือเป็นห้องอาหารไทยบนรูฟทอปแห่งแรกของกรุงเทพฯ นำเสนอประสบการณ์ที่ผสมผสานอาหารไทยร่วมสมัยเข้ากับศิลปะการเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง เพื่อทำให้ทุกๆ จานเป็นเสมือนการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอันรุ่มรวยและวัตถุดิบคุณภาพในท้องถิ่นอันโดดเด่นของประเทศไทยที่คัดสรรมาจากชาวนาและชาวประมงไทยโดยตรง นำเสนอผ่านรสชาติแบบไทยร่วมสมัยและศิลปะการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมการตกแต่งอย่างหรูหรากับโซนรับประทานอาหารหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ร้านอาหารแบบสบายๆ บาร์เลานจ์ในร่มสุดชิค อุโมงค์ Eexperience Tunnel และบาร์กลางแจ้งสีสันสดใสกับพื้นที่ระเบียงกลางแจ้งขนาดใหญ่กว่า 835 ตารางเมตร เติมแต่งฉากหลังอันงดงามด้วยทิวทัศน์ของเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา รังสรรค์เป็นพื้นที่อันสมบูรณ์แบบในการชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือกรุงเทพฯ พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายที่ผนวกวัฒนธรรมไทยเข้ากับความประณีตและรสนิยมเหนือชั้น สู่การเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ห้องอาหาร K by Vicky Cheng” ณ  “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 กับห้องอาหารในต่างประเทศแห่งแรกของเชฟระดับมิชลินชาวฮ่องกงอย่างเชฟวิคกี้ เชง (Vicky Cheng) มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารจีนร่วมสมัยที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารจีนรูปแบบใหม่ผ่านการผสมผสานรสชาติแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศส ผนวกกับแนวคิดด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์จากแรงบันดาลใจของภูมิปัญญาโบราณของ 24 ภาวะตามปฏิทินจีนที่ผสมผสานอาหารจีนร่วมสมัยเข้ากับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเพื่อดึงความโดดเด่นของวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ฤดู สะท้อนการผสมผสานระหว่างประเพณีและนวัตกรรมผ่านวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ภายในห้องอาหารได้รับการออกแบบอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์ร่วมสมัยกับมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ผ่านโทนสีแดงเบอร์กันดีเข้มและศิลปะแบบจีนสะดุดตา สะท้อนถึงความเคารพต่ออดีตและการโอบรับปัจจุบัน รวมถึงลวดลายกิเลนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยืนยาวและความมั่งคั่ง เสริมให้ภายในห้องอาหารโดดเด่นและรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมยิ่งขึ้น พร้อมทัศนียภาพงดงามของกรุงเทพฯ สร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ เคียงคู่เมนูอาหารที่ยกระดับสู่ความเป็นนานาชาติเป็นครั้งแรกของเชฟวิคกี้ เชง

 

“Sartoria by Paulo Airaudo” ตั้งอยู่ ณ  “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 นำเสนอนิยามใหม่ของเมนูอาหารอิตาเลียนคลาสสิกร่วมสมัยกับเมนูสุดพิเศษที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยเชฟระดับมิชลินอย่าง เชฟเปาโล อายราวโด (Paulo Airaudo) ที่กลั่นกรองออกมาจากประสบการณ์เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกร่วมและความลุ่มลึกให้กับแขกผู้มาเยือน นำเสนอประสบการณ์หรูหราเหนือระดับกับโลกของอาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่งชั้นสูง ผ่านการผสมผสานความอุดมสมบูรณ์แบบอิตาเลียนคลาสสิกในบรรยากาศอันรุ่มรวย พร้อมเมนูชั้นเลิศที่นำเสนอรสชาติอิตาเลียนแบบดั้งเดิมผ่านการตีความแบบร่วมสมัย จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดตามฤดูกาลในแต่ละช่วงซึ่งคัดสรรมาจากผู้ผลิตท้องถิ่นในประเทศไทย พร้อมเชื้อเชิญให้แขกได้ชมศิลปะการทำอาหารอย่างใกล้ชิดผ่านครัวแบบเปิด กับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีเอกลักษณ์ผ่านการผสานเมนูอาหารชั้นเลิศ ศิลปะการทำอาหารชั้นสูง และทัศนียภาพอันงดงามยามค่ำคืน โดยมีฉากหลังอันสมบูรณ์แบบเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาสุดพิเศษของการรับประทานอาหารท่ามกลางวิวพาโนรามาที่งดงามของกรุงเทพฯ บน “เอ็มไพร์”

ห้องอาหาร “Nobu Bangkok” มีทั้งหมด 3 ชั้น รวมถึงชั้นดาดฟ้าของ “เอ็มไพร์” นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ผสานศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้ากับอิทธิพลด้านอาหารจากเปรู โดยเชฟระดับตำนานอย่างเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การมาเยือนในฐานะห้องอาหารโนบุแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นห้องอาหารโนบุที่สูงที่สุดในโลก ด้วยวิวพาโนรามาอันงดงามของกรุงเทพฯ ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่าประทับใจเหนือระดับให้กับผู้มาเยือน ด้วยการบริการชั้นเลิศและเมนูอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เชฟโนบุได้รังสรรค์เมนูอันโดดเด่นผ่านทักษะความเป็นเลิศด้านการทำอาหาร ช่วยสร้างสรรค์ช่วงเวลาอันน่าจดจำให้กับมื้อสำคัญ หรือค่ำคืนอันน่าประทับใจ กับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือนไปอีกยาวนาน

“Nobu Bangkok” ได้รับการออกแบบอย่างงดงามโดยบริษัทออกแบบระดับโลก Rockwell Group ด้วยแรงบันดาลใจจากสุนทรียะศิลปะแบบไทยและญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ ด้วยโทนสีทองและงานแกะสลักสุดวิจิตรจากแรงบันดาลใจของวัดไทยสู่ความเรียบหรูในแบบฉบับญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์โนบุออกมาผ่านทุกองค์ประกอบได้อย่างพิถีพิถัน นำเสนอประสบการณ์ตั้งแต่การรับประทานอาหารอย่างเป็นส่วนตัวภายใต้บรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจากห้องชาญี่ปุ่นและไทย พื้นที่ระเบียงกลางแจ้งสำหรับจัดอีเว้นท์ บาร์ซูชิหินอ่อนอันงดงามและเพดานกระจกสุดตระการตา ในขณะที่รูฟทอปชั้นดาดฟ้าได้รับการเนรมิตให้เป็น “Nobu Rooftop Bar” พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยอินฟินิตี้พูลและประติมากรรมทรงโค้งขนาดใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกๆ ชั้น

“EA” ไม่เป็นแค่เพียงการรวมตัวของห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ แต่ยังเป็นการสร้างจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งใหม่ล่าสุดของ “เอ็มไพร์” ในฐานะผู้นำด้านไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นของกรุงเทพฯ ที่ซึ่งวิถีชีวิตด้านการทำงาน สมัยใหม่ และการพักผ่อนหย่อนใจได้มาบรรจบกันอย่างลงตัว บนทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญที่รายล้อมไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลก ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและวิวเมืองอันงดงามแบบพาโนรามา ที่พร้อมดึงดูดคนทำงานสมัยใหม่และองค์กรชั้นนำระดับโลก รวมถึงนักเดินทางและนักชิมมาสู่ “เอ็มไพร์” พร้อมเติมเต็มแนวคิด Co-Living Collective: Empower Future ให้กับอาคารสำนักงานแบบไลฟ์สไตล์ระดับแฟลกชิปของ AWC เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจอาคารสำนักงานของประเทศไทย และสนับสนุนกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองหลวงชั้นนำระดับโลก

                                

สัมผัสประสบการณ์ในการรับประทานอาหารสุดพิเศษ ณ จุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งใหม่ที่หรูหราที่สุดในกรุงเทพฯ ณ “EA” พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

AWCawc-ea-rooftopattheempireearooftopattheempire
Comments (0)
Add Comment