ดีเวล แกรนด์ แอสเสท ดึงจุดแข็งด้านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย สะท้อนเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ที่ลงลึกทุกรายละเอียดอย่างเข้าใจทุกความต้องการของผู้บริโภค ปักหมุดแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนทำเลพระราม 9 – รามคำแหง เปิดตัวโครงการ “อาณา พระรามเก้า” (ARNA RAMA 9) บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ชูคอนเซ็ปต์ “MY CURATED SANCTUARY” และ การตกแต่งสไตล์ Modern Italian Design ผสานความคลาสสิกร่วมสมัย และหรูหรา
นายถวนันท์ ธเนศเดชสุนทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า โครงการอาณา พระรามเก้า (ARNA RAMA 9) คือบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง “ดีเวล แกรนด์ แอสเสท” และ “กลุ่มเศรษฐีวรรณ” ด้วยวิสัยทัศน์การดำเนินงานที่ต้องการตอบโจทย์ของลูกค้าในแต่ละเซกเม้นท์ โดยเฉพาะกลุ่มลักชัวรี่ที่กำลังมองหาความเป็นส่วนตัว (Private) ในการอยู่อาศัย จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการฯ ภายใต้แนวคิด “Private Home, for Private One บ้านที่เข้าใจคนโลก(ความสุข)ส่วนตัวสูง” ด้วยจำนวนเพียง 8 ครอบครัวเท่านั้น บนทำเลศักยภาพที่แฝงไว้ด้วยความเงียบสงบ พระราม 9 ซอย 39 แต่สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองเพียง 15 นาทีถึงทองหล่อ – เอกมัย เน้นชูคอนเซ็ปต์ “MY CURATED SANCTUARY” พร้อมการตกแต่งสไตล์ Modern Italian Design มีความคลาสสิก ความร่วมสมัย เหนือกาลเวลา (Timeless) สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้พักอาศัย ในราคาเริ่มต้น 39.9 – 73 ล้านบาท
“การพัฒนาของโครงการของเราเปรียบเสมือนงาน Craft ที่ใส่ในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การทำความเข้าใจเชิงลึกถึงความต้องการของลูกค้า (Customer Insight) ผ่าน 4 Brand Driver ได้แก่
1.Collective Insight เรียนรู้คำติชม จากลูกค้าโดยตรง เพื่อนำมาเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาโครงการและบริการ
2.Design Knowledge & Expertise ใส่ใจในทุกรายละเอียดทั้งการออกแบบ คุณภาพและบริการ เสมือนหนึ่งเป็นการสร้างบ้านของเราเอง
3.Design with Purpose ดีไซน์ที่ดีนอกจากความสวยงามต้องตอบโจทย์การอยู่อาศัย
4.Service Efficiency การดูแลหลังการขายผ่าน Service Solutions ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ภายใต้แบรนด์ “อาณา” (ARNA) เป็นการนำเสนอความเป็น Ultimate Privacy in Serene Community จับกลุ่มผู้ที่ชอบความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตที่ไม่มาก มีพื้นที่ สีเขียว โดยเน้นทำเลที่มีความเงียบสงบและมีความสะดวกสบาย (Urban Convenience) ควบคู่กัน เพื่อตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองวิถีใหม่ที่ปัจจุบันมีไลฟ์สไตล์อยู่บ้าน และต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น”
“อาณา พระรามเก้า ตั้งอยู่บนทำเลพระราม 9 – รามคำแหง ซึ่งทำเลนี้ในแง่ของซัพพลายที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะประเภทบ้านเดี่ยวนั้นค่อนข้างหายาก เนื่องจากข้อจำกัดของที่ดิน ในขณะที่ความต้องการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ยังคงมีอยู่ เนื่องจากศักยภาพของทำเลที่เชื่อมต่ออย่างสะดวกถึงย่านไลฟ์สไตล์สุขุมวิทและโรงเรียนนานาชาติชั้นนำอีกมากมาย เช่น Shrewsbury City Campus อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากย่าน ใจกลางเมือง รวมถึงระบบขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีส้ม และโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าให้ทำเลนี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจแห่งใหม่อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต” นายถวนันท์ กล่าว
อาณา พระรามเก้า บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “MY CURATED SANCTUARY” ที่มองที่อยู่อาศัยเป็นเหมือนสถานที่สงบ หลีกหนีจากความวุ่นวาย และแนวคิด “Private Home, For Private One บ้านที่เข้าใจคนโลก(ความสุข)ส่วนตัวสูง” มีจำนวน 8 ยูนิต บนพื้นที่โครงการรวม 1 – 1 – 64 ไร่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท โดดเด่นด้วยที่ตั้งบนทำเลพระราม 9 ซอย 39 ที่สามารถเชื่อมต่อถนนพระราม 9, รามคำแหง, เอกมัย, ทองหล่อ, สุขุมวิท ใกล้จุด ขึ้น – ลงทางด่วนพิเศษศรีรัชและทางด่วนพิเศษฉลองรัช และใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 12 อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยร้านอาหาร, แหล่งชอปปิง, สถานศึกษาชื่อดัง, โรงพยาบาลชั้นนำ เป็นต้น
ตัวบ้านได้รับการออกแบบสไตล์ “Modern Italian Design” ที่มีการผสมสานความคลาสสิกและความร่วมสมัย เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน มีเอกลักษณ์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา เหนือกาลเวลา สะท้อนตัวตนของผู้พักอาศัย มีการวาง Space layout ให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงรายละเอียดของการออกแบบที่สามารถ ตอบโจทย์ Pain point ของการอยู่อาศัย ในขณะที่ฟังก์ชันภายในบ้านถูกออกเป็น 3 ชั้น พิเศษกับความสูงเพดาน 3 – 3.6 เมตร ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบาย พร้อมรับแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน เพิ่ม Well-being ทุกหลังด้วยระบบเทคโนโลยี nanoe™ X ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากพลังของอนุมูลไฮดรอกซิลในการยับยั้งเชื้อไวรัสเกาะแน่น เชื้อไวรัสในอากาศ มลพิษและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะได้ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าสามารถยับยั้งเชื้อไวรัสบางชนิดได้ มาพร้อม Rooftop Garden พื้นที่อเนกประสงค์บริเวณดาดฟ้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ อาทิ ฟิตเนสส่วนตัว หรือสวนลอยฟ้าที่สามารถมองวิวแบบพาโนรามา ฯลฯ
แบบบ้านมีให้เลือกทั้งหมด 2 Type ได้แก่
Type A จำนวน 5 ยูนิต ที่ดินขนาด 44.20 – 45.60 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 515 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ,
Type B จำนวน 3 ยูนิต ที่ดินขนาด 56.40 – 56.80 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 611 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ลิฟท์และสระว่ายน้ำส่วนตัวยาว 10 เมตร พร้อมระบบน้ำแร่ Ionizer เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กับคุณสมบัติพิเศษไม่ระคายเคืองดวงตาและผิวหนัง โดยทุกยูนิตเป็นแบบ Fully Fitted อีกทั้งที่จอดรถรองรับระบบ EV Charger
ด้านแลนด์สเคปภายในโครงการฯ โอบล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวกับบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่น โดยมีการวางผังเพื่อเก็บรักษาต้นจามจุรีอายุกว่า 50 ปี ให้เป็น Signature Greenery ของโครงการฯ และคงไว้ซึ่งเสน่ห์ดั่งเดิมของทำเลแห่งนี้ ปลอดภัยด้วยระบบกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โดยเริ่มก่อสร้างเไตรมาส 2 ปี 2565 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 1 ปี 2567
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาด นายถวนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้บริษัทฯ มีการวางเซกเม้นท์ที่ชัดเจน เราเห็นคาแรคเตอร์ของลูกค้ามีที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว ชอบอยู่แบบ Small community ชอบการออกแบบที่มีรายละเอียด และมีพื้นที่ใช้สอยมากพอที่จะสามารถปรับการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงการบริการหลังการขายที่ใกล้ชิด โดยมองกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ, กลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัว และกลุ่มคนที่มองหาทรัพย์สินที่มีคุณค่า ดังนั้นเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน บริษัทฯ เน้นสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ทั้ง Website, Facebook, IG โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 2566 อย่างแน่นอน”