แลนดี้ โฮม ชู 3 กลยุทธ์สร้างยอดขาย 1,500 ล้าน พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดบ้านหรู 10 ล้านบาทขึ้นไป หลังพบความต้องการพุ่งสูงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเปิด 3 แบบบ้านใหม่รับสังคมผู้สูงอายุ
นางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัทแลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ว่า ยังคงมุ่งพัฒนาสู่การเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่ทันสมัย ภายใต้ 3 กลยุทธ์ ได้แก่ 1. รวดเร็ว ฉับไวในทุกช่องทางการสื่อสาร พัฒนาหน่วยงาน Call Center ในการสื่อสารในทุกช่องทางการติดต่อแบบออนไลน์ 2. มุ่งความสำคัญสู่การบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล CRM การนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อศึกษาความต้องการที่แตกต่างกัน โดยประยุกต์ใช้ในการสื่อสารและนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และ 3. สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ขณะเดียวกันยังคงนโยบายการตรึงราคาสินค้าไว้ให้นานที่สุด แต่หากจะมีการปรับราคาขึ้นภายในครึ่งปีแรกก็จะไม่เกินอัตรา 3% ถึงแม้ว่าในปีนี้ บริษัทรับสร้างบ้านโดยรวมมีแนวโน้มในการปรับขึ้นราคาบ้านมากกว่า 5% จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และราคาวัสดุก่อสร้าง แต่แลนดี้ โฮม จะยังคงตรึงราคา โดยบริษัทคาดว่าในปีนี้จะมียอดขาย 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามียอดขาย 1,200 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 25 % แบ่งเป็นบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทสัดส่วน 30% ระดับราคา 5-8 ล้านบาทสัดส่วน 30% ระดับราคา 8-10 ล้านบาทสัดส่วน 5% และระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปสัดส่วน 35% โดยตัวเลขที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมา คือบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านสูงสุด เป็นผลจากการพัฒนาการออกแบบและฟังก์ชั่นของแบบบ้านในระดับราคาดังกล่าวได้ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยยอดขายที่ได้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลคิดเป็น 80% และต่างจังหวัดคิดเป็น 20% โดยยอดขายในปี 60
“Landy Luxury เป็นกลุ่มบ้านหลังใหญ่ในระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีจุดเด่นทางด้านความครบครัน คุ้มค่าของฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการได้คฤหาสน์หลังใหญ่ แต่ไม่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ LandyLuxruy จะช่วยตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพราะสถาปนิกของแลนดี้ โฮม ได้ทำการวิจัย และพัฒนาฟังก์ชั่นที่ดีที่สุด กับงานออกแบบบ้านที่เน้นความงามสง่า โอ่อ่าและภูมิฐาน ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการออกแบบบ้านใหม่ เพียงเลือกจากแบบบ้านมาตรฐาน Landy Luxury ที่ออกแบบไว้แล้ว ก็จะได้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ พร้อมก่อสร้างและอยู่อาศัยได้ทันที”
ด้านนางสาวภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า กลยุทธ์ด้านการตลาดในปี 2561 แลนดี้ โฮมยังคงให้ความสำคัญกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ จึงได้ออกแบบบ้าน ซีรี่ย์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และเพื่อตอบรับการเติบโตของแบบบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในปีก่อน แลนดี้ โฮมจึงได้ออกแบบบ้าน Landy Luxury ออกมาทำตลาดอีก 2 แบบโดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่า กับการดีไซน์ที่สง่างาม โอ่โถง ในราคาที่จับต้องได้ อันได้แก่ 1.Botanica พื้นที่ใช้สอย 841 ตร.ม. 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ และ 2. TAO พื้นที่ใช้สอย 1,198.25 ตร.ม 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดนวัตกรรมบ้านผู้สูงอายุ แลนดี้ โฮมยังออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ รองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต กับแบบบ้าน 1. The Haus พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 2. Royal Oak พื้นที่ใช้สอย 287 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ 3.Notting Hill พื้นที่ใช้สอย 517 ตร.ม. 4ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
โดยแบบบ้านทั้ง 3 หลังได้คำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่เน้นความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ เช่นการลดพื้นที่ต่างระดับในส่วนที่ผู้สูงอายุใช้งานเป็นประจำ ตลอดจนเสริมทางลาด พร้อมขยายความกว้างบริเวณทางเดินให้เพียงพอต่อการใช้รถเข็น Wheelchair และคัดสรรวัสดุ ตลอดจนสุขภัณฑ์ที่สามารถรองรับความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างดี และนอกจากนี้ยังมีแบบบ้าน Victoria, Kensington, Hyde Park และ Madeleine ที่พัฒนารูปแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานให้สามารถตอบสนองความต้องการแก่ลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น