ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเผยภาพรวมตลาดโรงแรมระดับลักซูรี่ในภูเก็ต ช่วงครึ่งปีแรก 2564

มร.คาร์ลอสมาร์ติเนซผู้อำนวยการฝ่ายประเมินและที่ปรึกษาบริษัทไนท์แฟรงค์ประเทศไทยจำกัดกล่าวว่าก่อนเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนถึง90% ของรายได้ของภาคการท่องเที่ยวในภูเก็ตจึงไม่น่าแปลกใจที่ความต้องการเข้าพักโรงแรมตกลงอย่างมากหลังมีมาตรการปิดสนามบินฝั่งผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศในปี2563 และข้อจำกัดการเดินทางเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติรวมไปถึงการกักตัว14 วันในช่วงครึ่งปีแรก2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าในประเทศเพียงประมาณ700 คนเท่านั้นซึ่งลดลงไปถึง99.9% เมื่อเทียบปีต่อปีและเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นเวลานานโรงแรมหลายๆแห่งจำต้องปิดให้บริการบางส่วนหรือปิดทั้งหมด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวในภูเก็ตค่อยๆเปลี่ยนไปจากนักท่องเที่ยวชาวยุโรปไปสู่ชาวจีนที่ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดและชาวรัสเซียณช่วงครึ่งปีแรก 2564 จีนยังไม่เปิดประเทศสำหรับต่างชาติซึ่งมีผลมาตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 แผนการเปิดประเทศในรูปแบบของ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้อาจมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากภูเก็ตพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเป็นหลักแต่อย่างไรก็ตามโครงการนี้ถือเป็นความพยายามที่ภูเก็ตจะกลับมาเปิดอีกครั้งโดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วไม่จำเป็นต้องกักตัว 14 วัน

อุปทานและอุปสงค์

บริเวณหาดป่าตองประกอบด้วยโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลเป็นส่วนใหญ่โดยคิดเป็น 24% ของอุปทานทั้งหมดรองลงมาคือหาดกะรน (15%) หาดบางเทา (14%) หาดกะตะ (13%) และหาดกมลา (10%)

ความต้องการเข้าพักโรงแรมลดลงอย่างมากหากไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยมีอัตราการเข้าพัก8% สำหรับโรงแรมระดับลักลักซูรี่และระดับอัพสเกลลดลงไป 30% ปีต่อปีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ 3% เนื่องจากการระบาดระลอกที่สามในจังหวัดสมุทรปราการในเดือนเมษายนปี 2564

ราคาเฉลี่ยรายวัน (ADR) ของโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลลดลงไป39% ปีต่อปีอยู่ที่ 2,342 บาทซึ่งนับเป็นระดับต่ำที่สุดใหม่เป็นประวัติการณ์เนื่องจากภูเก็ตไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศโรงแรมต่างๆจึงต้องเสนอส่วนลดต่างๆเพื่อดึงดูดความต้องการภายในประเทศที่มีจำกัด

ในครึ่งปีแรก 2564 ไม่มีโรงแรมเปิดใหม่ทั้งในระดับลักชัวรี่และระดับอัพสเกลดังนั้นอุปทานสะสมทั้งหมดจึงไม่เปลี่ยนแปลงโดยมีจำนวนห้องพักรวมอยู่ที่22,824 ห้องในภูเก็ตมีโรงแรมใหม่กว่า20 แห่งที่วางแผนจะเปิดตัวในช่วงปี2563และ2564 แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนในการกลับมาของนักท่องเที่ยวโรงแรมที่วางแผนจะเปิดตัวจำต้องชะลอการเปิดตัวออกไปถึงช่วงครึ่งปีหลัง 2564 และปี 2565

มีเพียงโรงแรมวีวิลล่าภูเก็ตบายเอ็มแกลเลอรี(24 ห้อง) เปิดตัวในภูเก็ตในช่วงครึ่งปีแรก2564ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมระดับซูเปอร์ลักซูรี่

ภาพรวม

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากมาตรการการกักตัวก่อนเข้าประเทศที่เข้มงวดซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี2563

รัฐบาลไทยตั้งเป้าที่จะกระจายการฉีดวัคซีน100 ล้านโดสให้เข้าถึง70% ของประชาชนทั้งหมดภายในสิ้นปี2564 ก่อนเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้การกระจายการฉีดวัคซีนต้องดำเนินการให้เร็วขึ้นเนื่องจากมีเพียง3% ของประชาชนทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนณสิ้นเดือนมิถุนายนปี2564 ขณะที่ประชาชนกว่า60% ในจังหวัดภูเก็ตได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดสซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในประเทศไทยเนื่องจากพวกเขาต้องเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วโดยไม่จำเป็นต้องกักตัวภายใต้โครงการแซนด์บอกซ์ที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี2564แต่ถึงอย่างนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาก็ยังต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆเช่นการเข้าพักในโรงแรมที่จัดไว้ให้โดยมีการรับรองSHA+ และตรวจRT-PCR หลายครั้งก่อนและหลังเดินทางมาถึงภูเก็ต

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นโครงการนำร่องในการพยายามที่จะกลับมาเปิดประเทศรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยจะขยายไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆหากภูเก็ตประสบความสำเร็จแต่ความเสี่ยงอยู่ตรงที่ว่าอาจมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้นซึ่งส่งผลให้มาตรการและข้อจำกัดด้านการเดินทางมีผลบังคับใช้อีกครั้งและทำให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวล่าช้าออกไป

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการโรงแรมต่างก็คาดหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง2564 ด้วยอัตราการเข้าพักเป็นตัวเลขสองหลักแต่ทางการไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพียง100,000 คนภายใต้โครงการแซนด์บ็อกซ์ในไตรมาส3 ปี2564 ดังนั้นเราไม่คาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสำหรับโรงแรมระดับลักซูรี่และระดับอัพสเกลในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นมากนักและอาจคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า20% ต่อไป

ในขณะเดียวกันราคาเฉลี่ยรายวัน(ADR)ยังคงจะอยู่ในระดับต่ำตลอดเดือนที่เหลือของปีนี้หรืออาจนานกว่านั้นเนื่องจากโรงแรมที่เปิดอยู่จำเป็นต้องแข่งขันด้านราคาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวส่วนโรงแรมใหม่ที่ถูกเลื่อนเปิดตัวมาและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเริ่มทยอยกลับมาเปิดบริการมากขึ้น

ประเทศไทยถือว่ามีความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดระดับหนึ่งด้วยอัตราการติดเชื้อที่ค่อนข้างต่ำซึ่งตรงนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะค่อยๆเพิ่มขึ้นภายใต้โครงการ‘แซนด์บอกซ์’ ในจังหวัดภูเก็ตโดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนแล้ว

​ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
Comments (0)
Add Comment