ช่างซ่อมรถช่วยปฏิวัติวงการรถยนต์ได้
โลกของอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง รถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) กำลังมาแทนที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้คนที่มีอาชีพเกี่ยวกับซ่อมและดูแลเครื่องยนต์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง แต่มีคนกลุ่มหนึ่งมองเห็นช่องทางธุรกิจใหม่จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ธุรกิจใหม่ที่เกิดขึ้น คือการให้บริการเปลี่ยนเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนของรถมือสองจากเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายในไปเป็นระบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
ธุรกิจใหม่ช่วยทำให้รถเก่าและมีตัวถังที่ยังใช้งานได้สามารถวิ่งต่อไปได้ หรือรถเก่ารุ่นคลาสสิกที่ใช้วิ่งไม่ได้เนื่องจากไอเสียไม่ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อม สามารถขับเคลื่อนได้ในยุคปัจจุบัน และยังอาจจะช่วยให้คนที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อยสามารถเป็นเจ้าของรถ EV ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ต้องเติมน้ำมันได้ โดยเอารถที่มีอยู่แล้วไปเปลี่ยนเครื่องยนต์ใส่แบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไหม่เข้าไปแทนเครื่องยนต์สันดาปภายใน
หนังสือพิมพ์การ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ธุรกิจให้บริการเปลี่ยนเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นระบบพลังไฟฟ้าเกิดขึ้นมาหลายปีแล้วและขยายตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีส์มีชุกชุมในประเทศสหรัฐอเมริกา
เอสเอ็มอีหลายรายเริ่มต้นจากการนำรถเก่ารุ่นคลาสสิกที่ปล่อยไอเสียเกินมาตรฐาน มาเปลี่ยนเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนทำให้สามารถนำกลับมาขับฉุยฉายได้อย่างสบาย ดึงดูดสายตาคนได้มากกว่ารถแพง ๆ รุ่นปัจจุบันเยอะ
การ์เดียน ระบุว่า จนถึงปลายปีพ.ศ. 2559 มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์รถเก่าใช้น้ำมันเป็นระบบไฟฟ้าไปแล้วอย่างน้อย 30,000 คันทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นผลงานของเอสเอ็มอีและช่างเครื่องยนต์มือสมัครเล่น
นาย Brian Berrett เจ้าของบริษัท EV Wilderness จากมลรัฐ ยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์การ์เดียนว่า ‘อนาคตของการรถคือรถไฟฟ้า อย่างแน่นอน สำหรับเราแล้วการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กับรถเก่าเป็นความคิดที่ดี เป็นการรีไซเคิ้ลของเก่า เราเอารถจากสุสานรถมาให้ชีวิตใหม่ที่ใช้งานไปได้อีกนาน ถ้าร้านซ่อมรถทั่วโลกรู้วิธีทำ จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้’
บริษัท EV Wilderness ทำธุรกิจร้านซ่อมรถสามารถนำรถเก่ามาเปลี่ยนเครื่องและขายไปได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คันแล้ว บริษัทนี้ยังขายคู่มือวิธีการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์เป็นระบบไฟฟ้าด้วย
กระแสธุรกิจการเปลี่ยนเครื่องยนต์ไม่ได้จำกัดตัวอยู่แค่รถเก๋งคลาสสิก นักธุรกิจรุ่นใหม่ ให้ความสนใจรถเมล์รถบรรทุกและรถขนส่งมวลชนอย่างมาก อาจารย์ David Greenwood จากมหาวิทยาลัย วอลิก (Warwick) ของอังกฤษ ให้สัมภาษณ์การ์เดียน ว่าการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ของรถบรรทุก รถเมล์หรือรถตู้สำหรับการขนส่งมวลชนให้เป็นระบบไฟฟ้า จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่ารถเก๋ง เพราะต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งละเป็นพันคัน
บริษัทที่เปิดให้บริการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้รถบรรทุกและรถเพื่อการขนส่งแล้ว คือ บริษัท Complete Coach Works ในรัฐแคลิฟลอเนีย มีผลงานเปลี่ยนรถบรรทุกดีเซลเก่าเป็นรถพลังงานไฟฟ้าไปแล้ว 35 คัน โดยมี 21 คันเป็นรถเมล์วิ่งขนผู้โดยสารของเมืองอินเดียนาโปลิส
นาย Ryne Shetterly ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท EV Wilderness ระบุว่า กิจการของบริษัทค่อนข้างดีเนื่องจากการเปลี่ยนเครื่องยนต์มีราคาถูกกว่าซื้อรถพลังงานไฟฟ้าคันใหม่
อีกบริษัทหนึ่งที่กำลังไปได้ดีกับธุรกิจการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กับรถ เพื่อการขนส่ง คือ บริษัท Wrightspeed ซึ่งเจ้าของเป็นชาวนิวซีแลนด์และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เทสล่า บริษัทนี้มีผลงาน เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กับรถขนขยะและรถขนพัศดุให้กับบริษัทเฟดเอกซ์ในสหรัฐอเมริกามาแล้ว
หนังสือพิมพ์การ์เดียน นิวซีแลนด์ รายงานว่าในปีที่แล้ว บริษัท Wrightspeed ได้งานเปลี่ยนเครื่องให้รถเมล์ในนิวซีแลนด์ 1,000 คันมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 958.4 ล้านบาท)
น่าเชื่อว่า ถ้ารัฐสนับสนุนธุรกิจเปลี่ยนเครื่องยนต์รถจากน้ำมันเป็นไฟฟ้ารถยนต์ ในประเทศไทยช่างเครื่องยนต์ไทยจะสามารถช่วยปฏิวัติวงการรถยนต์เข้าสู่ยุค 4.0 ทำให้อากาศเมืองไทยสะอาดขึ้นได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังจะช่วยไม่ให้ไทยต้องพึ่งน้ำมันจากต่างประเทศอีกต่อไป เป็นการสนับสนุนให้เกิดเอสเอ็มอีใหม่จำนวนมากได้ในคราวเดียว
รัฐบาลไทยเห็นด้วยมั้ยครับ
ภาพจาก Dgit Daily รถเต่าทองผลิตในปีพ.ศ. 2481บริษัท Zelectric Motors ในสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนเครื่องรุ่นนี้ให้ใช้พลังงานไฟฟ้าในราคา 68,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.17 ล้านบาท)
ภาพ โฆษณารถเต่าทองที่เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าแล้วและมีอัตราเร่งดีกว่าเดิม ของบริษัท Zelectric เผยแพร่โดย Dgit Daily
ภาพจาก Dgit Daily รถปอร์เช่ 911 รุ่นเก่า ที่บริษัท EV4U อยู่เมือง Shasta Lake ในแคลิฟลอเนีย รับเปลี่ยนเครื่องให้เป็นระบบไฟฟ้า ในราคา 23,495 ดอลลาร์ (ประมาณ 750,000 บาท) โดยบริษัทนี้มีรถเก่ารุ่นนี้ขายด้วยในราคาใกล้เคียงกับค่าเปลี่ยนเครื่อง
ภาพจาก Dgit Daily รถ มาเซราติรุ่นปีพ.ศ. 2528 เจ้าของเดิมคือนาย Martti Nienimen ทดลองเปลี่ยนเครื่องเป็นระบบไฟฟ้าในปีพ.ศ. 2536 แต่รถวิ่งได้ช้า บริษัท EV West ในอังกฤษ นำไปปรับปรุงอีกรอบ ทำให้วิ่งเร็วสมเป็นรถสปอร์ตด้วยพลังไฟฟ้า ราคาเปลี่ยนเครื่องรวม 35,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.11 ล้านบาท)