ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องนานนับปี ส่งผลให้โครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนกรกฎาคม 2564 เปิดตัวลดลง 13 โครงการจากเดือนก่อน เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่มีการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปอีก จึงทำให้ทั้งจำนวนโครงการ จำนวนหน่วย และมูลค่าของเดือนนี้ลดลงอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยผลสำรวจอสังหาฯ เดือนกรกฎาคม 2564 มีโครงการเปิดใหม่จำนวน 12 โครงการ ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 จำนวน 13 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 2,311 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 7,119 ล้านบาท ถือว่าลดลงค่อนข้างมาก
จำนวนหน่วยอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 2,311 หน่วย ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 จำนวน 3,801 หน่วย (ลดลงประมาณ -62.2%) โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ ทาวน์เฮ้าส์ (51.8%) รองลงมาคือ อาคารชุด (39.5%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว (4.4%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด อัตราการขายในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ยที่ 7%ซึ่งถือว่ามีความต้องการซื้อค่อนข้างต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 24% ต่อเดือน
โดยมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนกรกฎาคม2564 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7,119 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 จำนวน 20,574 ล้านบาท (ลดลงประมาณ -74%) ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุดคือ ทาวน์เฮ้าส์ (53.2%) รองลงมาคือ อาคารชุด (26.1%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว (11.6%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 3.081 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 4.529 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อยเป็นสำคัญ
เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 6 บริษัทคือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอส ซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
ในด้านทำเลโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน1 โครงการ ส่วนที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) มีจำนวน 7 โครงการเช่น ถนนสรงประภา ถนนสายไหม ถนนลาดพร้าว ถนนบางนา-ตราด ถนนพระราม 2 และถนนบางกรวย-ไทรน้อย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 4 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งใกล้ชุมชนที่อยู่อาศัยและแหล่งงาน เช่น ย่านไทรน้อย รังสิต-ปทุมธานี และคลองหลวง เป็นต้น