เที่ยว สนุก สบาย ผ่อนคลาย แบบใส่ใจธรรมชาติ “อีโค ซีโร่ คาร์บอนทริป” ที่สันติบุรี เกาะสมุย

ท่องเที่ยวอย่างใส่ใจธรรมชาติ คือหนึ่งในหัวใจหลักที่โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย เที่ยวอย่างไรให้ได้รับความเพลิดเพลิน สนุกสนาน รวมถึงรักษาและดูแลธรรมชาติควบคู่กันไปด้วย ที่ สันติบุรี เกาะสมุย รีสอร์ทริมทะเลระดับ 5 ดาว ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน รวมถึงมีกระบวนการจัดการก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทำให้โรงแรมมีค่าการปล่อยคาร์บอนออกมาเป็นศูนย์ จนได้รับรางวัล Carbon Neutral จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ในปี 2019 ซึ่งกระบวนการจัดการนั้น ได้เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การสร้างที่พักตามช่องว่างของแนวต้นไม้ในธรรมชาติ การจัดการขยะ การลดการใช้พลังงาน และยังให้ความสำคัญกับชุมชนในการยกระดับความเป็นอยู่ ขณะเดียวกันยังอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้

อย่างไรก็ดี สันติบุรี เกาะสมุย จึงพร้อมเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่รักธรรมชาติ โดยที่พักมีความสะดวกสบาย ห้องพักถูกออกแบบให้กลมกลืน ไปกับหมู่ไม้ใหญ่ และธารน้ำธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญในเรื่องอาหาร ที่ต้องอร่อยและมีเอกลักษณ์ ปรุงรสสดใหม่ เน้นวัตถุดิบคุณภาพดีภายในท้องถิ่นเป็นหลักโดยเฉพาะอาหารทะเลที่ มาจากการทำประมงของคนในชุมชน เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อสร้างการท่องเที่ยวแนวใหม่ของเกาะสมุย

ทั้งนี้เกาะสมุย จึงจะไม่ได้มีเพียง หาดทราย สายลม เกลียวคลื่น ผับบาร์ ปาร์ตี้ และชาวต่างชาติ อีกต่อไป ยังมีการท่องเที่ยววิถีชุมชนและวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่นการไปเดินตลาดเช้า “ตลาดแม่น้ำ”ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น ทั้งขนมครกโรยน้ำตาล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเกาะสมุย และภาคใต้ ไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน ที่อร่อยไม่แพ้ไก่ทอดหาดใหญ่ที่โด่งดัง หรือการท่องเทียวศึกษาเชิงระบบนิเวศน์ทางทะเล ที่ “เกาะแตน” เกาะเล็กๆ ที่อยู่ห่างไปเพียง 20 นาที ทางตอนใต้ของเกาะสมุย สิ่งที่น่าสนใจคือ การเชื่อมต่อกันของระบบ ได้แก่ 1) ป่าชายเลน 2) แหล่งหญ้าทะเล และ 3) ระบบนิเวศแนวปะการัง

โดย นายอเล็กซานเดร เฟรนเค็ล (Alexandre Frenkel) ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมสันติบุรี เกาะสมุย ให้ข้อมูลว่า ถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเฉพาะที่เกาะแตนที่เป็นแหล่งที่มีระบบนิเวศครบทั้ง ป่าชายเลน หญ้าทะเล และแนวปะการัง โดยการกักเก็บคาร์บอนไว้ในระบบนิเวศทางทะเลนั้น เรียกว่า “บลูคาร์บอน”  ป่าชายเลน จะเป็นตัวดูดซับลม คลื่น และกระแสน้ำต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็เป็นตัวกรองน้ำเสียและขยะต่าง ๆ จากเมืองสู่ทะเล ส่วนแหล่งหญ้าทะเล มีหน้าที่ช่วยกักเก็บหน้าดิน เพิ่มพื้นที่ชายฝั่งทะเล และจะช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศและน้ำทะเลมาเก็บไว้ในชั้นดินใต้ทะเล สำหรับแนวปะการัง จะเป็นตัวช่วยลดแรงคลื่นที่จะเข้าปะทะกับชายหาด

“เกาะแตนจึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้ไปศึกษา และสนุกไปกับการเรียนรู้ระบบนิเวศ นอกจากนี้ยังได้ดำน้ำตื้นชมหมู่ปะการัง เพลิดเพลินไปกับฝูงปลาน้อยใหญ่ และปะการังหลากสีสันสวยงาม” นายอเล็กซานเดร กล่าว

ทริป 3 วัน 2 คืน ที่ สันติบุรี เกาะสมุย เปิดประสบการณ์ที่น่าจดจำและครบทุกความต้องการ ทั้งที่พักสบาย อาหารอร่อย สัมผัสวิถีชุมชนที่แตกต่าง อีกทั้งได้เรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยทางโรงแรมจัดแพคเกจสุดพิเศษ “พัก 1 คืน ฟรี 1 คืน” รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6,507 บาท (ร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน) ถ้าพักคืนที่ 3 ลด 50%  โดยแขกที่เข้าพักสามารถสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงแรมกับครอบครัวหรือเพื่อน ผ่อนคลายไปกับ afternoon tea ทุกวัน หรือเลือกเล่นกีฬาทางน้ำ พายเรือคายัค, paddle board โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษ 1 ฟรี 1 สำหรับกิจกรรมอื่นๆ อีก เช่น Len Spa 1 คอร์ส รับฟรีอีก 1 คอร์ส รับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในห้องอาหารโรงแรม สั่ง 1 อย่าง รับฟรีอีก 1 อย่าง หรือจองรถรับ-ส่ง สนามบิน 1 เที่ยว ฟรีอีก 1 เที่ยว

 

propertychannelบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)สิงห์สิงห์ เอสเตทอสังหาริมทรัพย์เกาะติดชีวิตคนเมือง
Comments (0)
Add Comment