กรมการพัฒนาชุมชน จัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 60 ปี

332

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565 ณ ห้องสัมมนา 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร กรมการพัฒนาชุมชน จัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 60 ปี จัดพิธีทำบุญถวายเพลพระสงฆ์จำนวน 9 รูป โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนที่ 31 กล่าวรายงาน นายยุวัฒน์ วุฒิเมธี อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน คนที่ 8 นายไพโรจน์ พรหมสาน์ส อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนที่ 12 นายวิเชียร เชาวลิต อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คนที่ 22 ชมรมข้าราชการบำนาญ แขกผู้มีเกียรติ ข้าราชการ ลูกจ้างพนักงานราชการ และสื่อมวลชนร่วมงาน

เวลา 10.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธี ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ให้ศีลและเจริญพระพุทธมนต์ เสร็จแล้ว ประธานในพิธี ผู้บริหารกรมฯ ถวายจตุปัจจัย และเครื่องไทยธรรม แด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเพล

จากนั้นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดงาน และประธานในพิธีมอบพบปะและมอบแนวทางการปฏิบัติงานเนื่องในวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 60 ปี

กล่าวว่า ในวาระวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน วันที่ ๑ ตุลาคม 2565 ส่วนราชการและหน่วยงาน สังกัดกรมการพัฒนาชุมชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้มีการจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณูปการในการก่อเกิดกรมการพัฒนาชุมชน และเป็นการเสริมสร้างให้ข้าราชการและบุคลากร ของกรมการพัฒนาชุมชนเกิดความรักความภาคภูมิใจในองค์การ ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการและบุคลากรทุกระดับ โดยในส่วนกลางจัดให้มีพิธีทำบุญ สำหรับในส่วนภูมิภาค มีการจัดพิธีทางศาสนาและกิจกรรมอื่น ๆ เช่น กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ตามความเหมาะสม กิจกรรมเสริมสร้างความสัมพันธ์ในองค์การ เป็นต้น


นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า 60 ปี ที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ที่มีคุณค่าและภาคภูมิใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน จากการปลูกฝังอุดมการณ์สู่คนรุ่นหลัง การทำงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วม และยึดหลักปรัชญาการพัฒนาชุมชน ตลอดมา ในโอกาสที่กรมการพัฒนาชุมชนก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 61 กรมการพัฒนาชุมชนได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาชุมชน และรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในบริบทโลก และสังคมไทยในมิติต่าง ๆ ทั้งในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้มีความสามารถในการบริหารจัดการและพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน การส่งเสริมและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากที่ช่วยให้คนในชุมชน มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ มีความมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อสร้างเครือข่ายการพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็ง เชื่อมโยงความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อผนึกกำลังในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าด้วยกันอย่างเชื่อมั่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน และประเทศชาติต่อไป…อธิบดีกล่าว

72990

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พบปะและมอบแนวทางปฏิบัติงานเนื่องในวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 60 ปี ว่า วันนี้เป็นวันที่สำคัญยิ่งอีกวันหนึ่งของกรมการพัฒนาชุมชน ที่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาชุมชน อยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนมากว่า 60 ปี นอกจากที่จะได้ทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลในโอกาสวันคล้ายวันครบรอบการก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว ยังได้ร่วมอุทิศส่วนกุศลให้แก่ข้าราชการของกรมการพัฒนาชุมชน ผู้เป็นปูชนียบุคคลผู้ล่วงลับอีกด้วย โดยสิ่งที่คนไทยยึดถือกันมาในโอกาสวันครบรอบนั้น ประการที่ 1 เพื่อรำลึกนึกถึงบรรพบุรุษ ปูชนียบุคคล ที่เป็นผู้ก่อร่างสร้างกรมการพัฒนาชุมชนขึ้นมา และสร้างชื่อเสียงให้กับกรมการพัฒนาชุมชนในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชนมาอย่างยาวนาน ท่าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ให้ข้อสรุป ของคนกรมการพัฒนาชุมชนไว้ว่า “เป็นคนที่คุยกับชาวบ้านรู้เรื่องมากที่สุด และเป็นคนที่ชาวบ้านรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยมากที่สุด และคนกรมการพัฒนาชุมชนนั้น จะมีแววตาที่เต็มไปด้วยความเมตตา” ประการที่ 2 ต้องประเมินตนเอง โดยต้องช่วยกันมองอดีต นึกถึงปัจจุบัน เพื่อกำหนดถึงแผนงานโครงการที่จะทำในอนาคต
.
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปว่า คนกรมการพัฒนาชุมชนนั้น สามารถภาคภูมิใจว่าได้ทำสิ่งที่ดี ให้กับประเทศชาติและประชาชนแล้ว อย่างไรก็ตาม จงอย่าพอใจกับสิ่งที่ปูชนียบุคคลของกรมการพัฒนาชุมชนได้ขับเคลื่อนมา จงมีความทะเยอทะยานให้มากขึ้นเพื่อที่จะทำให้พี่น้องประชาชน ได้พ้นจากความทุกข์และมีแต่ความสุขอย่างยั่งยืน เพราะยังมีพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งข้อมูลจากระบบ TPMap ที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้พัฒนาขึ้นมานั้น มีประชากรที่ยังคงรอรับการช่วยเหลือจากรัฐกว่า 1 ล้านคน และข้อมูลจากระบบ ThaiQM ของกรมการปกครอง ก็ยังพบว่ามีครัวเรือนที่มีปัญหาความเดือดร้อนอยู่กว่า 4 ล้านครอบครัว จึงขอถือโอกาสนี้เน้นย้ำให้คนกรมการพัฒนาชุมชน ที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ได้ร่วมกันทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน สิ่งใดที่ได้ทำมาและดีอยู่แล้วขอให้พัฒนาต่อยอดไปสู่สิ่งที่ดีกว่า สิ่งใดที่ยังไม่ดีขอให้ประเมินและปรับปรุงทุ่มเทช่วยกันพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ยังมีประชาชนอยู่อีกมากที่ยังรอคอยให้พวกเราไปช่วยเหลือ
.
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเน้นย้ำว่า การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ต้องเอาจริงเอาจังอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากรมการพัฒนาชุมชน สามารถสร้างกลุ่มออมทรัพย์ที่มีทุนทรัพย์อยู่เป็นจำนวนมาก และเป็นองค์กรที่สำคัญที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้ามาพึ่งพิงหรือเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อใช้สำหรับการประกอบสัมมาชีพได้ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มีหลายพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จนั้นยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ กรมการพัฒนาชุมชนจะยังต้องประเมินผลงานและนำไปขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ งานของกรมการพัฒนาชุมชนต้องทำงานเพื่อสนับสนุนหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งด้านการเกษตร ศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาอาชีพ ฯลฯ งานของกรมการพัฒนาชุมชนคือการพัฒนาคนในทุกมิติ ทุกช่วงวัย ให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างยั่งยืน โดยการน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้เหมาะสม และการจะทำให้งานประสบผลสำเร็จได้นั้นผู้ปฏิบัติงานต้องมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สรรหาสิ่งใหม่ ๆ ต่อยอดในการพัฒนาชุมชน เป็นผู้มีจิตใจ ที่มุ่งมั่น มี Passion ที่จะร่วมกัน Change for Good สร้างสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้น และต้องทำให้ผู้บังคับบัญชายอมรับและทำตามให้ได้ และขอให้คนกรมการพัฒนาชุมชนช่วยกันพัฒนา แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อแผ่นดินบ้านเกิด แสดงออกถึงความทุ่มเทด้วยการทำงาน ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ด้วยหัวใจของคนกรมการพัฒนาชุมชน ที่เป็นหัวใจแห่งความรัก ความเมตตา เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ ทั้ง 17 ข้อ

Leave A Reply

Your email address will not be published.