ชีวาทัยลุยเปิดโครงการใหม่รับอานิสงค์เมกกะโปรเจ็กต์ ดันรายได้โตกว่า 20%
ชีวาทัย วาง 7 โครงการใหม่ ทั้งแนวราบ-แนวสูง มูลค่า 5,915 ล้านบาท ขานรับตลาดอสังหาฯ สดใส พร้อมแผนการพัฒนาของภาครัฐ มั่นใจได้อานิสงค์ดันรายได้ทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 %
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) (CHEWA) เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท หรือประมาณ 20% จากปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายรอโอน (Backlog) ประมาณ 1,500 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการใหม่ และอีก 2 โครงการร่วมทุน คิดเป็นมูลค่ารวม 5,915 ล้านบาท ซึ่งรองรับกับแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะได้รับปัจจัยบวกจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ การลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คของภาครัฐ ทั้งโครงการรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม ส่วนแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยย่านใจกลางเมือง ยังมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพิ่มมากขึ้น เช่น แอร์พอร์ตลิงค์ และแนวรถไฟฟ้าสายในอนาคต ทั้ง สายสีเหลืองและสีชมพู รวมถึงสายสีเขียวและสีน้ำเงิน เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยให้ความสนใจเพิ่มขึ้น
สำหรับโครงการใหม่ที่บริษัทวางแผนพัฒนาในปีนี้ ประกอบด้วย 1. โครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนท์ ทองหล่อ (ทองหล่อ 20) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 155 ยูนิต มูลค่า 954 ล้านบาท 2.โครงการฮอลล์มาร์ค เกษตรนวมินทร์ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 480 ยูนิต มูลค่า 1,700 ล้านบาท 3.โครงการชีวาวัลย์ พุทธมณฑล สาย 1 แบรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 53 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ยที่ 19 ล้านบาท มูลค่า 1,226 ล้านบาท 4. โครงการชีวา โฮม รังสิต-คลอง 4 แบรนด์ใหม่ล่าสุด ทาวน์โฮม ขนาด 275 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ยที่ 2.5-3 ล้านบาท มูลค่า 700 ล้านบาท 5.โครงการ ชีวา โฮม ประชาอุทิศ 90 ทาวน์โฮม ขนาด 391 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 2.1 – 2.49 ล้านบาท มูลค่า 885 ล้านบาท 6.โครงการ ชีวา ฮาร์ท สุขุมวิท ทาวน์โฮม ที่ซอยสุขุมวิท 62/1 มูลค่าโครงการ 180 ล้านบาท และ 7. โครงการชีวา ฮาร์ท ทองหล่อ ทาวน์โฮม ซอยสุขุมวิท 36 มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าปรับสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว, ทาวนโฮม) ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะมีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 55% โครงการแนวราบประมาณ 40% และรายได้จากโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่าอีก 5% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 90% และโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 10%
“ชีวาทัย ยังได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้าจึงได้จัดทำ ชีวาทัย โซไซตี้ ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เป็นผลมาจากการออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ที่พิเศษกว่าของลูกบ้านโดยเฉพาะ ด้วยแนวคิดที่ยึดถือว่า ลูกค้าของชีวาทัยต้องได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเป็นลูกบ้านของชีวาทัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และสร้างความแตกต่างในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่มีให้ โดยจะเป็นการนำเอาอินไซต์ที่เป็นความต้องการของลูกค้ามานำเสนอ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุด โดยสิทธิประโยชน์เด่น ๆ ที่นำเสนอออกมา อาทิ Member Get Member ที่สมาชิก Chewathai Society เพียงแนะนำเพื่อนมาเป็นลูกค้าโครงการใดก็ได้ของชีวาทัย รับค่าแนะนำสูงสุด 100,000 บาท การได้สิทธิ์รับส่วนลดสุดพิเศษจากร้านค้าชั้นนำต่าง ๆ ทั้งลด แลก แจก และแถม รวมถึงกิจกรรมดีๆ เพื่อสมาชิกได้สิทธิพิเศษในการจองซื้อ พร้อมเข้าชมการเปิดตัวโครงการใหม่ของชีวาทัย ได้ก่อนใคร”