อภิชาติ แนะเร่งพลิกฟื้นสินค้าโอทอปหลังป่วยโควิดยาวนาน

326

ส.ว.อภิชาติ แนะเร่งพลิกฟื้นสินค้าโอทอปหลังป่วยโควิดยาวนาน ชี้ท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีเป็นหัวใจสำคัญช่วยเสริมความแข็งแกร่งเศรษฐกิจฐานราก ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพชุมชนได้อย่างมั่นคง ช่วยลดความเหลื่อมล้ำสังคมได้อย่างยั่งยืน


นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังบรรยายพิเศษ “กรมการพัฒนาชุมชนกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ” ในงาน “วันพัฒนาชุมชน” ครั้งที่ 11 วาระครบรอบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ณ ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะว่า หลังจากเกษียณอายุราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และไปทำงานในฐานะสมาชิกวุฒิสภามา วันนี้อยากเห็นกรมการพัฒนาชุมชนทำงานตามเป้าหมายสำคัญคือ ทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่แก้จนสำเร็จ และลดความเหลื่อมล้ำได้อย่างยั่งยืน ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนมีพัฒนากรที่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน มีข้าราชการ เกือบ 5,000 คน ถือว่ามีข้าราชการกระจายอยู่เต็มพื้นที่ของทั่วประเทศไทย

อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่าอยากฝากกรมการพัฒนาชุมชนทำงานบนหลักการสำคัญ 4 ประการ คือ

1.ยึดบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งแต่ละภูมิภาค แต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดมีสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนเริ่มต้นทำงานขอให้ศึกษาข้อมูลให้ถูกต้องก่อน

2.หลังจากได้ข้อมูลแล้ว อยากให้หยุดคิดในเรื่องแนวคิดหรือองค์ความรู้ที่จะไปใช้ในการแก้ไขปัญหา ถ้าไม่คิดหรือตั้งหลักให้ดี สิ่งที่ทำไปอาจจะล้มเหลว ท้ายที่สุดแล้วชาวบ้านจะเสียโอกาส

72990

3.“เขี่ยลูก” คือเวลาหลายพื้นที่ที่ลงไปทำงานขาดคนรับผิดชอบหลัก ดังนั้นจึงต้องมีคนรับผิดชอบหลัก ที่รับผิดชอบจริงๆ ทำงานให้สำเร็จ 

4. “จัดกระดาน” หมายถึงลำพังกรมการพัฒนาชุมชน ทำงานกรมเดียวไม่สำเร็จ สิ่งที่ตามมาก็คือจะต้องหาพันธมิตร ต้องหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือทำงาน เพราะเป้าหมายสุดท้ายคือประชาชน

การแก้ไขปัญหาพื้นที่เป็นเรื่องหลายมิติ มีความซับซ้อน เพราะฉะนั้นลำพังแค่กรมการพัฒนาชุมชนทำหน่วยเดียวอาจจะลำบากและไม่สำเร็จ ทั้งนี้ถ้าเราทำได้ 4 เรื่องนี้ เรื่องสุดท้ายแล้วถึงเริ่มตั้งหลักขับเคลื่อน มีการติดตามประเมินผลทุกระยะ 4-5 เรื่องที่อยากฝากเป็นทิศทางที่จะทำให้กรมพัฒนาชุมชนสามารถทำงานได้กระชับ และก็เกิดผลดีต่อพี่น้องประชาชน

นายอภิชาติ กล่าวว่ากรมการพัฒนาชุมชนมีลักษณะงานที่ตรงกับเศรษฐกิจฐานรากหลายเรื่อง เช่น โอทอป ขณะนี้โอทอปเดิมเราทำมา 16 ปี รายได้ส่วนใหญ่เราไม่เคยทะลุ 1 แสนล้านบาท แต่ช่วงหลังๆทะลุ 2 แสนกว่าล้านบาท ภายใน 5 ปีนี้เอง เป็นเศรษฐกิจฐานรากของพี่น้องประชาชนจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องโอทอปนวัตวิถี เดิมโอทอปเราก๊อปปี้มาจากญี่ปุ่น แต่เราก๊อปปี้มาไม่หมด เราพาชาวบ้านออกมาขายของเป็นอีเว้นท์ปีนึงก็ขายได้ 3-4 ครั้ง จริงๆต้องขายทุกวัน ชาวบ้านถึงจะพ้นจน เพราะฉะนั้นการขายทุกวันจะทำได้ก็คือว่าเราต้องเปลี่ยนมาเป็นโอทอปนวัตวิถี คืออาศัยการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแม่เหล็กของประเทศไทย เพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมาก และเราพาเข้าไปในชุมชนได้เขาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งมันไม่ใช่แค่โอทอป แต่มีเรื่องการสัญจร เรื่องอาหารการกิน เรื่องที่พักอาศัย เรื่องการแสดง เรื่องเสื้อผ้า มันไปด้วยกันทั้งหมด เพราะรายได้มันกว้างกว่าโอทอปอย่างเดียว การท่องเที่ยวเราเคยพีคสูงสุดถึง 40 ล้านคน ถ้ารวมคนไทยด้วย 160 ล้านคน/ปี เพราะฉะนั้นจุดแข็งตรงนี้ นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศลงไปชุมชน เศรษฐกิจก็จะฟื้นทันที เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์ในการทำตรงนี้ให้เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งโอทอปนวัตวิถีคิดโดยกรมการพัฒนาชุมชน เราตั้งต้นมาแล้วเพียงแต่ตอนหลังเราถูกผ่อนแรงไปหน่อย เราต้องทำต่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้เร็วขึ้น เราควรให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาสู้ด้วยตนเอง และยืนอยู่บนลำแข้งของตัวเอง เป็นทิศทางที่ถูกต้อง ผมเชื่อมั่นในชาวบ้านว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะช่วยเหลือตนเอง เพียงแต่เขาขาดโอกาส และขาดทรัพยากรเราเอาทรัพยากรลงไป ถ้าเราทำถูกจุดจะทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้

“พัฒนากรของกรมการพัฒนาชุมชน เป็นเครื่องจักรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพราะพัฒนากรจะอยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน อยู่ฐานรากจริงๆ และเป็นข้าราชการ เป็นหน่วยงานของรัฐเพียงไม่กี่หน่วยที่ทำงานในตำบล หมู่บ้าน ซึ่งตำบล หมู่บ้าน ผมถือว่าเป็นจุดแตกหักของการพัฒนาประเทศ ถ้าล่างสุดเรายังทำได้ไม่ดี ข้างบนก็ส่งผลกระทบหมด ดังนั้นตัวพัฒนากรผมให้กำลังใจว่างานที่ท่านทำเป็นงานสำคัญของชาติที่ท่านทำด้วยอุดมการณ์ด้วยความรู้ความสามารถของท่าน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ ท่านมีใจที่จะทำ ถ้าท่านมีใจที่อยากทำ งานที่ท่านทำก็สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว ฉะนั้นฝากไว้ว่าพัฒนากรเป็นตัวหลักสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน ของกระทรวงมหาดไทย และของประเทศ”อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว

Leave A Reply

Your email address will not be published.