วอลโว่ จับมือ ชัยรัชการ เปิดตัวรถขุดรุ่นใหม่ในรอบ 10 ปี ของวอลโว่ในไทย
วอลโว่ จับมือ ชัยรัชการ เปิดตัวรถขุดรุ่นใหม่ในรอบทศวรรษ New Generation Volvo Excavator EC210 ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยและเอเชียเติบโต สอดรับกับการพัฒนาอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและเหมืองแร่ ชูจุดเด่นประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุด 15% ระบบความปลอดภัย และพร้อมปะทะด้วยความแข็งแกร่งกำลังเครื่องยนต์ 167 แรงม้า แรงขุดสูงสุด 136 กิโลนิวตัน เผยประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักอันดับ 4 ทำยอดขายเครื่องจักรหนักในปี 2024 มากถึง 7,000 เครื่อง คาดปี 2025 ยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
นายโทมัส คูต้า ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรหนัก วอลโว่ ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวถึงแนวโน้มตลาดของเอเชียมีเสถียรภาพการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยค่อนข้างดี (IMF คาดการณ์ GDP ไทยในปี 2025 ที่ 3.0%) จึงได้นำเครื่องจักรหนัก Volvo CE เข้ามาทำตลาดมุ่งหวังที่จะขยายธุรกิจในเอเชีย และกลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชันที่ยั่งยืนและสอดรับกับความต้องการมากที่สุด พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับแก่ลูกค้า โดยการดำเนินงานของ Volvo CE ในเอเชียครอบคลุมถึงศูนย์เทคโนโลยี โรงงานผลิตเครื่องขุดขนาดใหญ่ที่สุดใน Volvo CE และเครือข่ายซัพพลายเออร์และการจัดจำหน่ายที่พัฒนาอย่างดี หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์เครื่องขุด GPE และผลิตภัณฑ์ EXC ขนาด 20 ตัน การเปิดตัวเครื่องขุดรุ่นใหม่จะช่วยให้ Volvo มีผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นสำหรับลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเอเชียต่อไปโดยมุ่งเน้นที่ความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรม มอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีการพัฒนาปรับให้เหมาะสมกับตลาด
สำหรับ New Generation Volvo Excavator EC210 ถือเป็นเครื่องจักรหนัก ประเภทรถขุดที่เปิดตัวใหม่ในรอบ 10 ปี ตัวรถมีการพัฒนาทางด้านสมรรถนะที่โดดเด่น มาพร้อมสโลแกน ประหยัด ปลอดภัย พร้อมปะทะ กำลังเครื่องยนต์ 167 แรงม้า ที่ 2,000 รอบ/นาที ความจุบุ้งกี๋ 1.0 ลบ.ม. แรงชุดสูงสุดของบุ้งกี้ (ISO 6015) 136 กิโลนิวตัน แรงชุดสูงสุดของแบบชุด (ISO 6015) 93 กิโลนิวตัน นํ้าหนักปฏิบัติการ 21.640 กก. ความกว้างแผ่นแทรค 800 มม. ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุด 15% จากการพัฒนาระบบให้ช่วยประหยัดต้นทุน เครื่องยนต์กำลังสูงในรอบเครื่องต่ำ ปั๊มไฮดรอลิคควบคุมอัตราการไหลของน้ำมันใช้แรงดันขั้นต่ำเพียง 5 บาร์ ระยะเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิคสูงสุดที่ 6,000 ชั่วโมง โหมดการทำงานแบบ eco ช่วยประหยัดน้ำมัน
อีกทั้งช่วยประหยัดเวลา ชุดกรอง และจุดอัดจาระบีแบบกลุ่ม ปั้มดูดน้ำมันด้านข้างรถอัตราการไหล 50 ลิตร/นาที ด้านความปลอดภัย ห้องโดยสารมาตฐาน ROPS มองเห็นรอบด้าน ลดจุดบอดในการทำงาน แผ่นกันลื่นบนตัวรถ จุดยึดจับด้านข้างรถ 3 จุด ปุ่มดับเครื่องยนต์ฉุกเฉิน ระบบระบายความร้อนสำหรับสภาพอากาศร้อน กล้องมองหลังและไฟ LED แบบฝัง ในส่วนของขุมพลังพร้อมปะทะ แขนยกและแขนขุดความยาว 5.7 และ 2.9 เมตร แบบ HERVY DUTY เครื่องยนต์ Volvo D5E (4.7 ลิตร) กำลังเตรื่องยนต์สูงถึง 167 แรงม้า ที่ 2000 รอบ/นาที แรงบิด 670 นิวตันเมตร ที่ 1600 รอบ/นาที ปั๊มไฮดรอลิก posicon ให้อัตราการไหลสูงสุด 400 ลิตร/ นาที
นายโทมัส กล่าวปิดท้ายว่า ด้วยสมรรถนะของรถที่ถูกออกแบบและพัฒนามาอย่างเหมาะสม ประกอบกับความร่วมมืออันดีกับทาง บริษัท ชัยรัชการ (กรุงเทพ) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องจักรหนักในประเทศไทยที่ดำเนินงานมานานกว่า 48 ปี และมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศจำนวน 12 สาขา ที่ให้บริการด้านการขาย การบริการ และการสนับสนุนชิ้นส่วน จะช่วยให้การดำเนินงานมีความครบวงจร อีกทั้งประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักอันดับ 4 ทำยอดขายเครื่องจักรหนักในปี 2024 มากถึง 7,000 เครื่อง คาดในปี 2025 จากศักยภาพของเครื่องจักร ความต้องการของตลาดที่ตอบโจทย์การพัฒนาด้านอุตสหกรรมก่อสร้าง เหมืองแร่ และพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี จะทำให้ยังคงมียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
-มีต่อ-
นายสุมิตร เพชราภิรัชต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ชัยรัชการ (กรุงเทพ) จำกัด กล่าวถึงภาพรวม ชัยรัชการ หรือ Chab บริษัท ชัยรัชการ (กรุงเทพ) จำกัด ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 48 และใช้ระยะเวลา 3 ปี ก็สามารถทำยอดขายรถบรรทุกฮีโน่ เป็นอันดับ 1 และครองแชมป์มายาวนานกว่า 30 ปี โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 25% จากมูลค่าตลาดรวมราว 10,000 ล้านบาท ภายใต้การบริหารที่มุ่งเน้นกลยุทธ์การบริการลูกค้าที่ดี โดยเฉพาะหลังการขาย อีกทั้งการวางภารกิจการดูแลลูกค้าทำอย่างไรให้รถไม่เสียระหว่างการใช้งาน ให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และกลับมาซื้อซ้ำได้ นอกจากตลาดรถบรรทุกแล้ว ชัยรัชการก็มีขายรถเล็กแบรนด์โตโยต้า ภายใต้บริษัท โตโยต้า ชัยรัชการ จำกัด สำหรับความร่วมมือล่าสุดกับทางวอลโว่ ซึ่งถือเป็นแบรนด์ผู้นำทางด้านเครื่องจักรกลหนัก ใช้ในงานก่อสร้าง และเป็นแบรนด์จากยุโรป ประเทศสวีเดน ที่สามารถแข่งขันกับตลาดได้ เชื่อว่าด้วยสมรรถนะที่มีความแข็งแกร่ง ลุยงานหนัก ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี
นางสาวนันท์นพิน เพชราภิรัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเครื่องจักรกลหนัก บริษัท ชัยรัชการ (กรุงเทพ) จำกัด กล่าวเสริมถึงความร่วมมือและแผนงานสนับสนุนการเปิดตัวเครื่องจักรหนักรุ่นใหม่ของวอลโว่ครั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายทางการตลาดยังเป็นกลุ่มเดิม แต่เป็นการต่อยอดขยายฐานลูกค้าที่ใช้รถบรรทุกอยู่ ซึ่งก็มีความต้องการรถเครื่องจักรกลหนัก เรียกว่าการขยายธุรกิจเพิ่มความครบวงจร การมาที่ชัยรัชการ ลูกค้าสามารถเลือกได้ทั้งรถเล็ก รถบรรทุก และรถเครื่องจักรกลหนักในที่เดียวกัน โดยการคัดเลือกแบรนด์ที่เป็นพรีเมี่ยมและให้ประโยชน์กับลูกค้าสูงสุด ซึ่งที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นฮีโน่ โตโยต้า ก็เป็นแบรนด์ท็อปของประเทศ ทางแบรนด์ วอลโว่ ก็เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้าน ความแข็งแรง ทนทาน ความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน ดังนั้น การนำแบรนด์วอลโว่เข้ามาจำหน่ายจะเป็นการส่งเสริมธุรกิจของชัยรัชการและส่งเสริมธุรกิจของฐานลูกค้าที่ถืออยู่ในมือด้วย
“ตัวรถขุดวอลโว่ เจเนอเรชั่นใหม่ EC210 เราให้นิยาม 3 ป. คือ ประหยัด ปลอดภัย พร้อมปะทะ ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดที่เหมาะกับรถขุดอยู่แล้ว ตรงตัวคือประหยัดช่วยลดต้นทุนน้ำมันได้มากถึง 15% มีระบบความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน และกำลังแรงม้าที่ทำงานได้รวดเร็ว เต็มที่ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในตลาดรถขุดตอนนี้ ความประหยัด ปลอดภัย และขุมกำลังเยอะ ทั้งหมดนี้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าทุกรายแน่นอน สำหรับเป้าหมายยอดขายเราต้องการจะเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มรถเครื่องจักรกลหนัก เช่นเดียวกับการทำยอดขายกับรถบรรทุกฮีโน่ที่ทำได้ในเวลาเพียง 3 ปี ทั้งนี้ ในปีแรกนี้คาดว่าจะปิดการขายได้ราว 500 คัน สำหรับราคารถเริ่มต้นในตัวมาตรฐาน 21 ตัน จะอยู่ราว 3.75 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเปิดตัวเดือนแรกนี้จะมีประกาศราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจด้วย และในอนาคตแบรนด์ วอลโว่ จะมีการส่งมอบรถขุด ระบบไฟฟ้าเข้ามาเสริมและจะเป็นเจ้าแรกๆ ที่จะนำเข้ามาในไทย ซึ่งปัจจุบัน วอลโว่มีจำหน่ายบ้างแล้วในสิงคโปร์ ญี่ปุ่น คาดว่าช่วงกลางปีนี้จะได้เห็นกันที่ไทย”
อนึ่ง ชัยรัชการ ปัจจุบันดำเนินธุรกิจจำหน่ายรถบรรทุกแบรนด์ฮีโน่ รถยนต์โตโยต้า รถยนต์มือสองแบรนด์โตโยต้าชัวร์ รถเครื่องจักรกลหนักขนาดเล็ก แบรนด์ JCB และล่าสุดรถเครื่องจักรกลหนักขนาดใหญ่ แบรนด์วอลโว่ ปัจจุบันมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศไทยทั้งหมด 15 สาขา และเตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีกหนึ่งแห่งที่สุราษฎร์ธานี ภายใต้การบริหารงานที่ครอบคลุม ทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย งานขาย งานบริการ และอะไหล่เครื่องยนต์ที่พร้อมสนับสนุนลูกค้าตลอดการใช้งานอย่างครบวงจร สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทางไลน์ไอดี @Chab.ms หรือผ่านทางโซเชียลมีเดีย Facebook :ชัยรัชการ แมชซีนเนอรี